คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1348/2531

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ไม่มีพยานรู้เห็นยืนยันว่าจำเลยร่วมกระทำผิดกับช. ที่พยานโจทก์เบิกความว่า ช. บอกว่าจำเลยเป็นผู้ร่วมวางแผนในการกระทำผิดด้วยนั้น เป็นเรื่องพยานโจทก์ได้รับคำบอกเล่าจาก ช. ผู้กระทำผิดร่วมกับจำเลยซัดทอดถึงจำเลย จะรับฟังเป็นพยานหลักฐานเพื่อลงโทษจำเลยไม่ได้
ลำพังเพียงคำเบิกความของพนักงานสอบสวนที่เบิกความประกอบคำรับสารภาพขั้นสอบสวนของจำเลยซึ่งจำเลยปฏิเสธในชั้นพิจารณาจะยังลงโทษจำเลยว่าเป็นผู้กระทำความผิดหาได้ไม่

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๖, ๘๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิจารณาแล้วพิจารณาแล้ววินิจฉัยว่า จำเลยเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิด พิพากษากลับ จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๓๓๖, ๘๖ ให้จำคุก ๒ ปี คำให้การชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๗๘ คงจำคุกจำเลย ๑ ปี
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นฟังได้ว่า ในวันเกิดเหตุนายสมชาติ ศริ จำเลยในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๓๐๓/๒๕๒๙ ของศาลชั้นต้นได้ว่างราวทรัพย์ตามฟ้องของนางบูเซียม แซ่โง้ว ไป มีปัญหาตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยเป็นตัวการร่วมกับนายสมชาติกระทำผิดฐานวิ่งราวทรัพย์ด้วยหรือไม่ ปรากฏว่าไม่มีพยานโจทก์คนใดเบิกความรู้เห็นยืนยันว่า จำเลยได้ร่วมกระทำผิดกับนายสมชาติ เหตุที่จำเลยถูกดำเนินคดีเป็นเพราะนานสมชาติซัดทอดและชี้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุม ที่ร้อยตำรวจตรีสุรศักดิ์กับสิบตำรวจเอกวิชัยพยานโจทก์เบิกความว่า นายสมชาติบอกว่าจำเลยเป็นผู้ร่วมงานวางแผนวิ่งราวทรัพย์ด้วยนั้น เป็นเรื่องพยานโจทก์ได้รับคำบอกเล่าจากนายสมชาติผู้ที่กระทำผิดร่วมกับจำเลยซัดทอดถึงจำเลย จะรับฟังเป็นพยานหลักฐานเพื่อลงโทษจำเลยไม่ได้จึงคงมีแต่คำรับสารภาพชั้นสอบสวนของจำเลยเท่านั้น ศาลฎีกาเห็นว่าคดีนี้แม้ว่าโจทก์จะมีร้อยตำรวจตรีสุรศักดิ์พนักงานสอบสวนเบิกความประกอบคำรับสารภาพชั้นสอบสวนว่า จำเลยรับสารภาพชั้นสอบสวน เมื่อคำเบิกความของประจักษ์พยานโจทก์และพยานโจทก์อื่น ๆ ฟังไม่ได้ว่า จำเลยกระทำผิดตามฟ้องลำพังเพียงคำเบิกความของร้อยตำรวจตรีสุรศักดิ์ที่มาเบิกความประกอบเอกสารดังกล่าวซึ่งจำเลยให้การปฏิเสธในชั้นพิจารณาและอ้างไว้รับสารภาพเพราะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจทำร้ายนั้น จะรับฟังลงโทษจำเลยว่าเป็นตัวการหรือผู้สนับสนุนความผิดฐานวิ่งราวทรัพย์หาได้ไม่ ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำเลยฐานเป็นผู้สนับสนุนนั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น
พิพากษา ให้ยกฟ้องโจทก์

Share