คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1401/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฎีกาของจำเลยกล่าวว่า จำเลยเกรงว่าฎีกาของจำเลยจะขาดอายุความจึงรีบจัดทำฎีกาย่อมาชั้นหนึ่งก่อน รายละเอียดพิศดารจำเลยจะได้แถลงการณ์ด้วยลายลักษณ์อักษรตามมาภายหลัง นอกจากนี้แล้วไม่ปรากฏว่าฎีกาของจำเลยระบุข้อเท็จจริงประการใด ดังนี้ ฎีกาจำเลยเป็นฎีกาที่มิได้ระบุข้อเท็จจริงแม้แต่โดยย่อ จึงเป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสามร่วมกันมีอาวุธปืนติดตัวทำการปล้นรถยนต์ซึ่งอยู่ในความดูแลรักษาของนายทนงศักดิ์ แซ่ตั้ง กับนาฬิกาข้อมือ 1 เรือน และเงิน 75 บาท ของนายทนงศักดิ์ไปโดยทุจริต โดยจำเลยร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงนายทนงศักดิ์ โดยได้ร่วมกันไตร่ตรองวางแผนไว้ก่อน และพาเอาทรัพย์ไป นายทนงศักดิ์ได้ถึงแก่ความตายสมดังเจตนาของจำเลย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340, 288, 289

จำเลยทั้งสามให้การปฏิเสธ ต่อมาจำเลยที่ 1 ถึงแก่ความตายในระหว่างพิจารณาศาลชั้นต้นจึงจำหน่ายคดีเฉพาะตัวจำเลยที่ 1 ออกจากสารบบความ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 340 วรรคท้าย ให้วางโทษประหารชีวิตแต่คำรับชั้นสอบสวนของจำเลยทั้งสองเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้คนละ 1 ใน 3 คงให้จำคุกจำเลยทั้งสองไว้ตลอดชีวิต

จำเลยที่ 2-3 อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยที่ 2-3 ฎีกา

ศาลฎีกาตรวจฎีกาของจำเลยแล้ว ฎีกาของจำเลยกล่าวว่า จำเลยเกรงว่าฎีกาของจำเลยจะขาดอายุความ จึงรีบจัดทำฎีกาย่อมาชั้นหนึ่งก่อนรายละเอียดพิสดารจำเลยจะได้แถลงการณ์ด้วยลายลักษณ์อักษรมา ในฎีกาของจำเลยมิได้ระบุข้อเท็จจริงอะไรขึ้นมาเลย ดังนี้ศาลฎีกาเห็นว่าเป็นฎีกาที่มิได้ระบุข้อเท็จจริงแม้แต่โดยย่อ เป็นฎีกาที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัยให้

พิพากษาให้ยกฎีกาของจำเลย

Share