คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1401/2512

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกับผู้ตายสมัครใจเข้าต่อสู้กัน จำเลยใช้มีดปลายแหลม ใบมีดยาวประมาณ 7 นิ้วฟุต กว้างประมาณ 1 นิ้วฟุต อันเป็นอาวุธร้ายแรงแทงผู้ตาย ในที่สำคัญถึง 2แผล แผลที่ 1 ตรงซอกคอ ชอนไปทางด้านซ้าย ยาว 5 เซนติเมตร กว้าง 2 เซนติเมตร ตัดหลอดคอ แผลที่ 2 ที่ท้องน้อยด้านซ้าย ยาว 3 เซนติเมตร กว้าง 1 เซนติเมตร ทะลุเข้าข้างในไส้ทะลัก อันเป็นบาดแผลสาหัส ผู้ตายถึงแก่ความตาย การที่จำเลยได้ใช้อาวุธร้ายแรง แทงผู้ตายในที่สำคัญถึง 2 แผล เช่นนี้ เห็นได้ว่าจำเลยได้แทงทำร้ายผู้ตายโดยมีเจตนาฆ่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่าจำเลยบังอาจใช้มีดปลายแหลมแทงทำร้ายร่างกายนายชื่น ไชยา เป็นเหตุให้นายชื่น ไชยา ถึงแก่ความตาย โดยจำเลยมีเจตนาฆ่านายชื่น ไชยา ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘
จำเลยให้การว่าได้แทงนายชื่น ไชยา ตายจริง โดยป้องกันตัว
ศาลชั้นต้นฟังว่า การกระทำของจำเลยเป็นการฆ่าโดยเจตนา จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยกับผู้ตายสมัครใจเข้าต่อสู้กัน การที่จำเลยแทงผู้ตายถึงแก่ความตาย จำเลยไม่ได้เจตนาฆ่า เพราะลักษณะการกระทำของจำเลยไม่มีโอกาสจะเลือกทำร้ายได้ตามเจตนา พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๙๐
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า วันเกิดเหตุที่บ้านนางทา ซึ่งเป็นมารดาของนายชื่นผู้ตายและเป็นแม่ยายจำเลย มีงานแต่งงานนางสาวเทียมเมา บุตรี ผู้ตายกับจำเลยไปช่วยงานนี้ด้วยและเสพสุรากัน ครั้นเวลา ๒๐.๒๐ นาฬิกา งานเลิก แขกกลับบ้านแล้ว นายชื่นผู้ตายกับนายทากินข้าวอยู่ในครัว ได้ยินเสียงจำเลยเมาสุราส่งเสียงเอะอะที่บ้านจำเลย ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับบ้านนางทา นายชื่นผู้ตายตะโกนไปว่าเอะอะทำไม เมาแล้วก็นอนเสีย จำเลยตะโกนตอบว่ากูเอะอะ มึงลงมาข้างล่างซิ นายชื่นผู้ตายก็ลงเรือนไป สักครู่หนึ่งก็ได้ยินเสียงต่อสู้กัน มีพยานเห็นจำเลยกับผู้ตายยืนกอดปล้ำกันอยู่ จำเลยชักมีดแทงนายชื่นผู้ตายสองครั้ง นายชื่นล้มนอนหงายถึงแก่ความตาย ปรากฏว่า มีดปลายแหลมที่จำเลยใช้แทงทำร้ายผู้ตายนั้น ใบมีดยาวประมาณ ๗ นิ้วฟุต กว้างประมาณ ๑ นิ้วฟุต อันเป็นอาวุธที่ร้ายแรงอาจถึงตายได้ บาดแผลนายชื่นผู้ตายปรากฏตามรายงานชันสูตรพลิกศพว่า แผลที่ ๑ ตรงซอกคอ ซอนไปทางด้านซ้ายยาว ๕ เซ็นติเมตรา กว้าง ๒ เซนติเมตร ตัดหลอดคอ แผลที่ ๒ ที่ห้องน้อยด้านซ้าย ยาว ๓ เซนติเมตร กว้าง ๑ เซนติเมตร ทะลุเข้าข้างในไส้ทะลัก อันเป็นแผลสาหัส แสดงว่าจำเลยได้ใช้อาวุธร้ายแรงแทงนายชื่นผู้ตายถึง ๒ แผลล้วนแต่แทงในที่สำคัญ ฟังได้ว่าจำเลยเลือกทำร้าย ถ้าจำเลยไม่มีโอกาสเลือกทำร้าย คงจะแทงไม่ถูกที่สำคัญเช่นนี้ถึง ๒ แผล การกระทำของจำเลยเป็นการกระทำโดยรู้สำนึกและในขณะเดียวกัน ย่อมเล็งเห็นผลของการกระทำนั้น ถือได้ว่าจำเลยมีเจตนา จึงควรมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share