คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1401/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ส่งบุตรแก่โจทก์ คดีถึงที่สุด โดยศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยส่งตัวบุตรให้โจทก์ แต่จำเลยขอให้งดการบังคับคดีไว้ อ้างว่าได้ฟ้องโจทก์ต่อศาลคดีเด็กและเยาวชนกลางขอให้พิพากษาให้อำนาจปกครองบุตรอยู่แก่จำเลย ต่อมาคดีหลังถึงที่สุดโดยศาลอุทธรณ์พิพากษาให้อำนาจปกครองบุตรอยู่แก่จำเลย ดังนี้ ประเด็นพิพาทตามคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นเรื่องว่าจะให้จำเลยส่งบุตรแก่โจทก์ตามคำขอหรือไม่ ส่วนประเด็นพิพาทตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นเรื่องว่าอำนาจปกครองควรจะอยู่แก่จำเลยผู้เป็นมารดาหรือไม่ผลแห่งคำพิพากษาทั้งสองจึงเป็นคนละเรื่องกัน หาขัดแย้งกันไม่ เมื่อศาลอุทธรณ์พิพากษาให้อำนาจปกครองบุตรอยู่แก่จำเลยแล้ว อำนาจปกครองที่มีอยู่แก่โจทก์แต่แรกก็ย่อมหมดไปในตัว จำเลยไม่ต้องส่งบุตรให้โจทก์

ย่อยาว

คดีนี้ เดิมโจทก์ฟ้องจำเลยขอให้ส่งบุตรแก่โจทก์ คดีถึงที่สุดโดยศาลฎีกาพิพากษาให้จำเลยส่งตัวบุตรให้โจทก์ จำเลยขอให้งดการบังคับคดีไว้ อ้างว่าได้ฟ้องโจทก์ต่อศาลคดีเด็กและเยาวชนกลางขอให้พิพากษาให้อำนาจปกครองบุตรอยู่แก่จำเลย ศาลอนุญาตต่อมาศาลอุทธรณ์พิพากษาให้อำนาจปกครองบุตรอยู่แก่จำเลย และคดีถึงที่สุดโจทก์ขอให้บังคับจำเลยปฏิบัติตามคำพิพากษาศาลฎีกา

ศาลชั้นต้นสั่งว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษาให้อำนาจปกครองบุตรอยู่แก่จำเลยแล้ว จึงไม่สั่งให้จำเลยส่งบุตรแก่โจทก์

โจทก์อุทธรณ์คำสั่ง

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ผลแห่งคำพิพากษาศาลฎีกาและคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นคนละเรื่องกัน จึงไม่ขัดแย้งกัน คือ ประเด็นพิพาทตามคำพิพากษาศาลฎีกาเป็นเรื่องว่าจะให้จำเลยส่งบุตรแก่โจทก์ตามคำขอหรือไม่ส่วนประเด็นพิพาทตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นเรื่องว่าอำนาจปกครองบุตรควรจะอยู่แก่จำเลยผู้เป็นมารดาหรือไม่ ฉะนั้นแม้ศาลฎีกาจะได้พิพากษาให้จำเลยส่งตัวบุตรแก่โจทก์ก็ตาม แต่เมื่อภายหลังศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาให้อำนาจปกครองบุตรอยู่แก่จำเลยผู้เป็นมารดาตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1538(6) แล้ว อำนาจปกครองที่มีอยู่แก่โจทก์ผู้เป็นบิดาแต่แรกก็ย่อมหมดไปในตัว ไม่ต้องมีการสั่งถอน จำเลยจึงไม่ต้องส่งบุตรให้โจทก์

พิพากษายืน

Share