คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1399/2492

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยกับพรรคพวกได้สมคบกันมาทำร้าย ฉ. โดยแบ่งหน้าที่กัน คือจำเลยกับพวกขึ้นไปฟัน ฉ. ที่บนเรือน ส่วนพวกอีกคนหนึ่งมีอาวุธปืนรับหน้าที่เป็นผู้คุ้มกัน และคอยช่วยเหลืออยู่ข้างล่าง คนที่อยู่ข้างล่างยิง ฉ.ขณะที่หนีลงเรือน กระสุนปืนพลาดไปถูกภรรยา ฉ. ตาย ดังนี้จำเลยย่อมมีผิดฐานเป็นตัวการฆ่าคนตายโดยเจตนาด้วย.

ย่อยาว

ความว่า จำเลยที่ ๑ ทะเลาะกับนายเฉลียว ถึงกับจำเลยที่ ๑ ผลักเตะและเอามีดไล่ฟันนายเฉลียว ๆ ไปแจ้งอำเภอ อำเภอนัดให้จำเลยไปแก้คดี แต่เกิดเหตุเรื่องนี้เสียก่อน ในวันเวลาเกิดเหตุ จำเลยที่ ๑ ขึ้นบันไดมากับพวก ๒ คน ใช้มีดฟันนายเฉลียว ๆ หลบทัน มีดพลาดไปถูกกรอบประตู นายเฉลียวคว้าฉมวกข้างตัวแทงถูกจำเลยที่ ๑ ที่หน้าอกตกบันไดลงไปพร้อมกับพวกอีก ๒ คน แล้วนายเฉลียวกับภรรยาหนีลงเรือนพร้อมกัน พอถึงพื้นดิน พวกของจำเลยที่ ๑ อีกคนหนึ่ง ซึ่งพะยานโจทก์เข้าใจว่าจำเลยที่ ๒ เป็นผู้น้องชายของจำเลยที่ ๑ ซึ่งแอบซ่อนอยู่ข้างล่าง ได้ใช้ปืนยิงนายเฉลียว แต่พลาดไปถูกนางเกษรถึงแก่ความตาย โจทก์จึงฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้ง ๒ ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๕๕,๖๐,๒๕๐,๒๔๙ จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุกจำเลยคนละ ๒๐ ปีตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง ปล่อยจำเลยทั้งสอง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ ๑ กับพวกรวมทั้งผู้ที่ยิงนางเกษรได้สมคบกันมาทำร้ายนายเฉลียวแต่แรก เนื่องจากมีสาเหตุที่มีอยู่ต่อกันระหว่างจำเลยที่ ๑ กับนายเฉลียว เมื่อจำเลยที่ ๑ กับพรรคพวกมาถึงบ้านนายเฉลียว ก็ได้แบ่งหน้าที่กัน คือ จำเลยที่ ๑ กับพวก ๒ คนขึ้นไปฟันนายเฉลียวด้วยดาบที่บนเรือน ส่วนพวกอีกคนหนึ่งมีอาวุธปืนรับหน้าที่เป็นผู้คุ้มกัน และคอยช่วยเหลืออยู่ข้างล่างโดยใกล้ชิด เมื่อจำเลยที่ ๑ กับพวกอีก ๒ คนขึ้นไปทำร้ายนายเฉลียวไม่ได้ผล กลับถูกแทงตกลงมา พวกอยู่ข้างล่างจึงแก้แค้นแทน โดยยิงนายเฉลียวในขณะที่ลงจากเรือนมาที่พื้นดิน แต่กระสุนพลาดไปถูกนางเกษร ซึ่งอยู่ชิดกับนายเฉลียวตาย ดังนี้ เป็นการกระทำที่เกี่ยวเนื่องกับเหตุการณ์ที่สมคบกันมานั้นเอง จำเลยที่ ๑ จึงต้องมีผิดฐานเป็นตัวการฐานะ++++โดยเจตนา ส่วนจำเลยที่ ๒ ข้อเท็จจริงฟังไม่ได้ว่าจำเลยกระทำผิด ศาลอุทธรณ์ยกฟ้องชอบ++++++
พิพากษาแก้ ให้ลงโทษจำเลยที่ ๑ ตามศาลชั้นต้น นอกนั้นยืนตามศาลอุทธรณ์

Share