คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1398/2506

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

พนักงานสอบสวนจับจำเลยมาโดยอัยการผู้ช่วยแจ้งความว่าถูกจำเลยด่า ต่อมาจำเลยไปด่าพนักงานสอบสวนด้วยถ้อยคำหยาบคาย และมีความหมายว่า พนักงานสอบสวนนั้นเป็นขี้ข้าหรือลูกน้องอัยการ ทำงานอยู่ใต้อาณัติของอัยการ ดังนี้ เป็นความผิดฐานดูหมิ่น เจ้าพนักงานเพราะได้กระทำการตามหน้าที่ตามมาตรา 136 และเมื่อเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานอยู่เช่นนี้แล้ว ดังไม่เข้าบทที่จะลงโทษจำเลยฐานดูหมิ่นบุคคลธรรมดาตามมาตรา 393 อีก
และการที่จำเลยด่าซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้งที่หน้าประตูบ้านผู้เสียหาย ในเวลากลางคืนอันเป็นเวลาหลับนอนของผู้เสียหายซึ่งอยู่ในบ้าน ถือได้ว่าเป็นการทำให้ผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อน รำคาญ การกระทำเช่นนี้จึงผิดมาตรา 397 ด้วย แต่นับว่าเป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ศาลย่อมลงโทษตามมาตรา 136 แต่บทเดียว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๖,๓๙๓,๓๙๗ จำเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นไม่เชื่อว่าจำเลยได้กล่าวถ้อยคำดูหมิ่นผู้เสียหาย จึงพิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เชื่อว่าจำเลยได้กระทำผิดตามฟ้อง จึงพิพากษากลับว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๓๖,๓๙๓,๓๙๗ แต่ให้ลงโทษตามมาตรา ๑๓๖ ซึ่งเป็นบทหนัก ให้ปรับจำเลบ
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า ในคืนเกิดเหตุ ร้อยตำรวจโทเพ็ชร์เข้าเวรเป็นพนักงานสอบสวน ราว ๒๒ น.เศษ นายประภัสสร์อัยการผู้ช่วยได้ไปแจ้งความว่า จำเลยกล่าวคำหยาบหมิ่นประมาท นายประภัสสร์ ร้อยตำรวจโทเพ็ชร์จึงให้ตำรวจไปเชิญตัวจำเลยมาสถานีตำรวจ เมื่อมาถึงก็สอบสวนปากคำจำเลยไม่ได้เพราะจำเลยมึนเมาสุรา ร้อยตำรวจโทเพ็ชร์จึงให้นำตัวไปควบคุมไว้บนสถานีตำรวจแล้ว ร้อยตำรวจโทเพ็ชร์ก็กลับบ้านพัก ครั้นเวลาราว ๓ น. ของคืนนั้น จำเลยไปหาร้อยตำรวจโทเพ็ชร์ที่บ้านพัก โดยมีนายสิบเวรตามไปด้วย จำเลยได้เรียกร้อยตำรวจโทเพ็ชร ร้อยตำรวจโทเพ็ชร์อยู่ในบ้านรู้สึกรำคาญจึงให้ภรรยาไปบอกจำเลยว่าตนไม่อยู่ เมื่อไปบอกดังนั้น จำเลยก็ก้าวลงจากชานบันได ไปและส่งเสียงด่าขึ้นว่า “ร้อยโทเพ็ชร์ อ้ายลูกกระโปกอัยการ อัยการเป็นพ่อมัน อ้ายเย็ดแม่ โครตพ่อโครตแม่อ้างเพ็ชร์มากูไม่กลัว มันเอากูมาขังไว้ กูผิดเรื่องอะไร” ซึ่งหมายความว่า ร้อยตำรวจโทเพ็ชร์เป็นขี้ข้าหรือลูกน้อยอัยการ ทำงานอยู่ใต้อาณัติของอัยการ จำเลยด่าซ้ำไปซ้ำมาด้วยถ้อยคำดังกล่าว หลายครั้งแล้วจึงไป
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยไปด่าว่าผู้เสียหายซึ่งเป็นพนักงานสอบสวนโดยด่าว่าเกี่ยวโยงถึงตำแหน่งของพนักงานอัยการซึ่งผู้เสียหายเป็นพนักงานสอบสวนมีหน้าที่ราชการเกี่ยวพันกับพนักงานอัยการอยู่ด้วย จึงเป็นความผิดฐานดูหมิ่นเจ้าพนักงานเพราะได้กระทำการตามหน้าที่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๑๓๖ และเมื่อเป็นการดูหมิ่นเจ้าพนักงานอยู่แล้วเช่นนี้ ก็ไม่เข้าบทที่จะลงโทษจำเลยฐานดูหมิ่นบุคคลธรรมดาตามมาตรา ๑๔๓ อีก
ข้อที่ฟ้องขอให้ลงโทษตามมาตรา ๓๙๗ ด้วยนั้น เมื่อเกิดเหตุคดีนี้ในเวลากลางคืน ประมาณ ๓ น.อันเป็นเวลาหลับนอนของร้อยตำรวจโทเพ็ชร์ซึ่งอยู่ในบ้าน จำเลยด่าด้วยถ้อยคำดังกล่าวซ้ำไปซ้ำมาหลายครั้งที่หน้าประตูบ้าน จึงถือได้ว่าเป็นการทำให้ร้อยตำรวจโทเพ็ชร์ได้รับความเดือดร้อนรำคาญ ควรกระทำเช่นนี้จึงผิดมาตรา ๓๙๗ ด้วย
พิพากษาแก้เฉพาะว่า จำเลยผิดประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๓๖,๓๙๗แต่เป็นกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษจำเลยตามมาตรา ๑๓๖ อันเป็นบทที่มีโทษหนักที่สุด แต่บทเดียว

Share