คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1385/2494

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยมิได้เป็นผู้ก่อนให้เกิดเหตุร้ายขึ้น แต่ผู้ตายไปดักคอยทำร้ายจำเลยกลางทาง จำเลยหนีไปเป็นระยะทางถึง 4 เส้น ผู้ตายก็ยังไล่ติดตามจะทำร้ายจำเลย ๆ หนึขึ้นไปบนเรือนแล้ว ผู้ตายก็ยังบุกรุกตามขึ้นไปอีก และโดดแทงจำเลยด้วยมีดก่อน จำเลยจึงต่อสู้ป้องกันตัว แม้จำเลยฟันผู้ตายทีหนึ่งแล้ว ผู้ตายทรุดตัวลงนั่งก็ดี แต่ก็ยังกำมีดอยู่ ยากที่จำเลยจะคิดเห็นได้ว่าตนพ้นอันตรายแล้วผู้ตายอาจผลุนผลันลุกขึ้นทำร้ายอีกก็ได้ จำเลยจึงฟันผู้ตายอีกทีหนึ่ง ผู้ตายจึงล้มลง แล้วจำเลยก็มิได้ทำอันตรายอีก ดังนี้ ย่อมถือได้ว่าการกระทำของจำเลยไม่เกินสมควรแก่เหตุได้รับการยกเว้นโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 50

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยฆ่านายเบ้ง ศรีแสงตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๔๙
จำเลยต่อสู้ว่า กระทำโดยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผิดตามมาตรา ๒๔๙,๕๓ จำคุก ๑๐ ปี
โจทก์จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า จำเลยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ จึงพิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า กรณีเรื่องนี้ จำเลยมิได้เป็นผู้ก่อให้เกิดเหตุร้ายขึ้น หากแต่ผู้ตายไล่ทำร้ายจำเลย จำเลยวิ่งหนีไปเป็นระยะทางถึง ๔ เส้น ผู้ตายก็ยังติดตามไป จำเลยหนีขึ้นเรือนแล้ว ผู้ตายก็ยังบุกรุกตามขึ้นไปอีก ผู้ตายเป็นคนเกะกะชอบทำร้ายผู้อื่น ขณะนั้นมึนเมาสุราอยู่ และถือมีดอยู่ ได้โดดเข้าทำร้ายจำเลยก่อน จำเลยจึงจำเป็นต้องต่อสู้ป้องกันตัวแม้เมื่อจำเลยฟันผู้ตายทีหนึ่งแล้ว ผู้ตายทรุดตัวลงนั่งก็ดี แต่ก็ยังกำมีดอยู่ จึงยากที่จำเลยจะคิดเห็นได้ว่าตนพ้นอันตรายแล้วการที่จำเลยฟันเอาอีกทีหนึ่ง ต่อเมื่อเห็นผู้ตายล้มลงไปแล้ว จำเลยจึงมิได้ทำอันตรายอีก เช่นนี้ เห็นได้ว่า จำเลยได้ทำร้ายผู้ตายเพียงเท่าที่จำเป็น จะไม่ให้มีอันตรายแก่จำเลยและบุตรภริยาเท่านั้น จึงไม่เกินสมควรแก่เหตุ ได้รับการยกเว้นโทษตามก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๕๐ ศาลอุทธรณ์พิพากษายกฟ้องชอบแล้ว
จึงพิพากษายืน

Share