แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ผู้ประกันทำสัญญาประกันจำเลยต่อศาลชั้นต้น ต่อมาศาลชั้นต้นสั่งปรับผู้ประกันอ้างว่าผิดสัญญาประกัน แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับโดยฟังว่าผู้ประกันยังมิได้ผิดสัญญาประกันเช่นนี้สัญญาประกันยังไม่สิ้นสุด หลังจากนั้นผู้ประกันไม่ส่งตัวจำเลยต่อศาลในวันนัดสืบพยานโจทก์ตามคำสั่งศาลชั้นต้น ย่อมถือว่าผู้ประกันผิดสัญญาประกัน เพราะสัญญาประกันมีผลผูกพันผู้ประกันอยู่จนกว่าผู้ประกันจะนำจำเลยส่งมอบต่อศาล
ย่อยาว
คดีสืบเนื่องจากโจทก์ฟ้องจำเลยทั้งสี่กล่าวหาว่ากระทำผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค และผู้ประกันทั้งสองได้ทำสัญญาประกันจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ต่อศาลชั้นต้น ต่อมาศาลชั้นต้นสั่งปรับผู้ประกันทั้งสองฐานผิดสัญญาประกัน แต่ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับเป็นไม่ปรับ ศาลชั้นต้นจึงสั่งนัดสืบพยานโจทก์ต่อไปและมีคำสั่งให้ผู้ประกันทั้งสองส่งตัวจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 ต่อศาล ครั้นถึงวันนัดผู้ประกันที่ 2 ขอเลื่อนการส่งตัวจำเลย ศาลชั้นต้นไม่อนุญาตและมีคำสั่งว่าผู้ประกันทั้งสองผิดสัญญาประกัน ให้ปรับเต็มตามสัญญาประกัน ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน แต่เนื่องจากผู้ประกันที่ 2 นำจำเลยที่ 2 ที่ 3 ส่งศาล ศาลชั้นต้นจึงลดค่าปรับตามสัญญาประกันสำหรับจำเลยที่ 2 ที่ 3 จากคนละแปดหมื่นบาทตามสัญญาเหลือคนละหนึ่งหมื่นบาทต่อมาผู้ประกันที่ 2 ยื่นคำร้องขอลดค่าปรับสำหรับจำเลยที่ 2 ที่ 3 และที่ 4 อีกศาลชั้นต้นไม่อนุญาต
ผู้ประกันที่ 1 ที่ 2 อุทธรณ์ อ้างว่าการที่ศาลอุทธรณ์สั่งเพิกถอนคำสั่งปรับของศาลชั้นต้น และศาลชั้นต้นไม่ได้ให้ผู้ประกันทำสัญญาประกันใหม่หรือตกลงให้ถือสัญญาเดิม สัญญาประกันเดิมย่อมสิ้นสุดโดยปริยาย ผู้ประกันจึงหลุดพ้นจากข้อผูกพันตามสัญญาประกัน
ระหว่างพิจารณาของศาลอุทธรณ์ ผู้ประกันที่ 1 ขอถอนอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์มีคำสั่งอนุญาต และพิพากษายืน
ผู้ประกันที่ 2 ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามสัญญาประกันข้อ 1 กำหนดว่า ข้าพเจ้าสัญญารับประกันตัวนางบุญเรือง อู่ธนา นายสถิตย์ อิงคนินันท์ และนายเกรียงศักดิ์สมุทรักษ์ จำเลยคดีนี้ เพื่อให้ศาลปล่อยชั่วคราวจนกว่าข้าพเจ้าได้นำนางบุญเรืองอู่ธนา นายสถิตย์ อิงคนินันท์ และนายเกรียงศักดิ์ สมุทรักษ์ มอบตัวต่อศาลและศาลสั่งให้ถอนประกันหรือปล่อยตัวไป และสัญญาข้อ 2 มีว่า ในระหว่างประกันนี้ข้าพเจ้าหรือนางบุญเรือง อู่ธนา นายสถิตย์ อิงคนินันท์ และนายเกรียงศักดิ์สมุทรักษ์ จะปฏิบัติตามนัดหรือหมายเรียกของเจ้าพนักงานหรือศาลมิฉะนั้นข้าพเจ้ายอมรับผิดชอบใช้เงินเป็นจำนวนคนละแปดหมื่นบาทให้แก่ศาลจนครบเมื่อข้อเท็จจริงปรากฏว่าศาลชั้นต้นนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 23 กรกฎาคม 2522เวลา 13.30 นาฬิกา ในวันดังกล่าวปราฏว่าศาลชั้นต้นยังมิได้มีคำสั่งให้ผู้ประกันทั้งสองส่งตัวจำเลยทั้งสามต่อศาล ศาลอุทธรณ์จึงไม่ปรับผู้ประกันทั้งสองเห็นว่าเงื่อนไขในสัญญาประกันที่ผู้ประกันที่ 2 ทำไว้ต่อศาล เมื่อศาลยังไม่ได้สั่งให้ถอนประกันหรือปล่อยตัวจำเลย สัญญาประกันที่ทำไว้ยังคงมีผลผูกพันผู้ประกันที่ 2อยู่จนกว่าผู้ประกันที่ 2 จะนำตัวจำเลยมามอบคืนต่อศาล เมื่อผู้ประกันที่ 2ส่งตัวจำเลยตามนัดไม่ได้ ย่อมถือว่าผู้ประกันที่ 2 ผิดสัญญาประกัน
สำหรับฎีกาของผู้ประกันที่ 2 ที่ขอลดค่าปรับลงอีกนั้น ศาลฎีกาเห็นชอบด้วยกับดุลพินิจของศาลล่างทั้งสองที่ปรับผู้ประกันสำหรับจำเลยรวม 3 คนเป็นเงิน 100,000 บาท
พิพากษายืน