แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยทำสัญญารับจ้างเฝ้ารักษาไม้ของกลางไว้แก่โจทก์ถ้าไม้ขาดหายหรือเป็นอันตรายจำเลยยอมให้ปรับเป็นเงินต่อมาเกิดอุทกภัยพัดพาเอาไม้ของกลางสูญหายไปทั้งหมดอันถือได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัยจึงไม่ก่อให้เกิดหนี้ที่จำเลยต้องรับผิดตามสัญญาฉะนั้นแม้จำเลยจะทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้แก่โจทก์และชำระหนี้ให้แก่โจทก์ไปบางส่วนแล้วก็หามีผลให้จำเลยต้องรับผิดชำระหนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้แก่โจทก์อีกไม่เพราะเป็นการรับสภาพหนี้โดยปราศจากมูลหนี้ที่จะให้รับสภาพจึงไม่มีผลบังคับแก่กัน(อ้างคำพิพากษาฎีกาที่ 484/2516).
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยได้รับจ้างเฝ้ารักษาไม้พยอมของกลางของโจทก์จำนวนหนึ่งโดยตกลงว่า ถ้าไม้ของกลางขาดหายหรือเป็นอันตราย จำเลยยอมให้โจทก์ปรับไหมตามสัญญา ต่อมาเกิดอุทกภัยไม้ของกลางหายไปทั้งหมด จำเลยทำบันทึกรับสภาพหนี้ยอมใช้เงินแก่โจทก์เป็นรายเดือนจนกว่าจะครบ จำเลยชำระเพียงเดือนเดียวแล้วผิดนัด ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การว่าจำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ เพราะไม้ของกลางหายไปเนื่องจากเหตุสุดวิสัย ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า ไม้พยอมของกลางสูญหายไปเพราะเหตุสุดวิสัยหนังสือรับสภาพหนี้ไม่สมบูรณ์ จำเลยไม่ต้องรับผิดต่อโจทก์ พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่าจำเลยได้ทำสัญญาจ้างเฝ้ารักษาไม้พยอมของกลางจำนวน 322 ชิ้น ปริมาตร 6.35 ลูกบาศก์เมตร กับโจทก์โดยคิดค่าจ้าง 350 บาท ถ้าไม้ขาดหายหรือเป็นอันตราย จำเลยยอมให้ปรับเป็นเงินลูกบาศก์เมตรละ 1,800 บาท ต่อมาเมื่อเดือนตุลาคม 2519 เกิดอุทกภัยพัดพาเอาไม้ของกลางสูญหายไปทั้งหมดจำเลยได้ทำบันทึกรับสภาพหนี้ให้ไว้แก่โจทก์ยอมใช้เงินจำนวน 11,430 บาท โดยผ่อนชำระเดือนละ500 บาท จำเลยชำระให้โจทก์เพียงเดือนเดียว จากนั้นก็ไม่ยอมชำระให้แก่โจทก์อีก และวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า การสูญหายของไม้ของกลางเป็นเพราะเหตุสุดวิสัยจึงไม่ก่อให้เกิดหนี้ที่จำเลยจะต้องรับผิดชดใช้แก่โจทก์ตามสัญญาเฝ้ารักษาไม้ ดังนั้นแม้จำเลยจะทำหนังสือรับสภาพหนี้ไว้แก่โจทก์ และชำระหนี้ให้แก่โจทก์บางส่วนแล้ว ก็หามีผลให้จำเลยต้องรับผิดชำระหนี้ตามหนังสือรับสภาพหนี้ดังกล่าวแก่โจทก์อีกไม่ เพราะกรณีเช่นนี้เป็นการรับสภาพหนี้โดยปราศจากมูลหนี้ที่จะให้รับสภาพ เนื่องจากโจทก์จำเลยไม่มีมูลหนี้ต่อกัน จึงไม่มีผลบังคับแก่กัน ตามนัยคำพิพากษาฎีกาที่ 484/2516
พิพากษายืน