คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1377/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ฟ้องโจทก์มิได้ระบุวันเวลาที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิด ก่อนสืบพยานโจทก์ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมวันเวลาที่จำเลยกระทำผิดโดยอ้างว่าพิมพ์ตกไป เมื่อศาลเห็นว่าจำเลยมิได้หลงต่อสู้ในข้อนี้ ศาลย่อมอนุญาตให้โจทก์เพิ่มเติมฟ้องได้ โดยถือว่าวันเวลาที่จำเลยกระทำผิดนั้นเป็นเพียงรายละเอียดที่จะต้องกล่าวในฟ้อง

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยแกล้งนำข้อความอันเป็นเท็จมาฟ้องต่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์ว่า เมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๑๑ โจทก์สมคบกับบุคคลอื่นใช้แทรกเตอร์ขับไถที่ดินของจำเลยทำให้ทรัพย์ของจำเลยเสียหาย ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๑๗๕
ศาลชั้นต้นไต่สวนมูลฟ้องแล้วสั่งคดีมีมูล ให้รับประทับฟ้อง
จำเลยให้การปฏิเสธ
ก่อนสืบพยานโจทก์ โจทก์ยื่นคำร้องขอเพิ่มเติมฟ้อง โดยขอเพิ่มเติมว่าเมื่อวันที่ ๗ มกราคม ๒๕๑๒ จำเลยได้แกล้งนำข้อความอันเป็นเท็จมาฟ้องต่อศาลจังหวัดกาฬสินธุ์
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้งดสืบพยาน แล้วพิพากษายกฟ้องโจทก์ เพราะเห็นว่าฟ้องโจทก์ไม่สมบูรณ์ ไม่ระบุวันเวลาที่อ้างว่าจำเลยกระทำผิด
โจทก์อุทธรณ์ ขอให้อนุญาตให้โจทก์แก้ฟ้องตามขอ
ศาลอุทธรณ์พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้น ให้รับคำร้องเพิ่มเติมฟ้องของโจทก์ และให้ศาลชั้นดำเนินการพิจารณาพิพากษาใหม่
จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๓ นั้น เมื่อมีเหตุสมควร โจทก์ขอแก้หรือเพิ่มเติมฟ้องก่อนศาลชั้นต้นพิพากษาได้ โจทก์อ้างเหตุว่าพิมพ์ฟ้องตกวันเดือนปีที่จำเลยกระทำผิด เห็นว่าโจทก์มีเหตุสมควรในการขอเพิ่มเติมฟ้อง การที่โจทก์ขอเพิ่มเติมรายละเอียดเกี่ยวกับเวลาที่กระทำผิดนั้น ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๔ มิให้ถือว่าทำให้จำเลยเสียเปรียบ เว้นแต่จะเลยจะหลงต่อสู้ แต่จำเลยเองก็มิได้คัดค้านแต่อย่างใด ทั้งการขอเพิ่มเติมฟ้องได้กระทำก่อนสืบพยานโจทก์ จำเลยย่อมมีโอกาสสู้คดีได้เต็มที่ ไม่ทำให้จำเลยหลงข้อต่อสู้
พิพากษายืน

Share