แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
หลังจากโจทก์ฟ้องคดีแพ่งแล้ว อัยการศาลทหารกรุงเทพ (พนักงานอัยการ กรมอัยการ) ได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญา ขอให้ลงโทษจำเลยฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส ซึ่งเป็นมูลกรณีเดียวกัน คดีแพ่งเรื่องนี้จึงเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 46 และพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. 2498 มาตรา 54 บัญญัติให้ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา
ศาลทหารกรุงเทพ (ศาลอาญา) ฟังข้อเท็จจริงว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุ จำเลยได้กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับอันตรายสาหัส พิพากษาลงโทษจำเลย คดีถึงที่สุด เมื่อข้อเท็จจริงในคดีส่วนอาญาฟังได้ดังกล่าว ย่อมถือได้ว่าจำเลยทำละเมิดโจทก์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นคนงานผลิตอาหารสำเร็จรูปของบริษัทกรุงเทพค้าสัตว์ จำกัด ขณะโจทก์ทำการบดกระเทียมและพริกด้วยเครื่องบดอยู่ เครื่องบดไม่ทำงาน โจทก์จึงปิดสวิตช์เครื่องบดเพื่อแคะเอากระเทียมและพริกที่อุดแน่นบริเวณใบมีดของเครื่องบดออก จำเลยได้เข้ามาช่วย ด้วยความประมาทของจำเลยไม่พิจารณาว่ามือขวาของโจทก์ยังอยู่ในเครื่องบดบริเวณใบมีด จำเลยกลับเปิดสวิตช์เครื่องบดให้ทำงาน เป็นเหตุให้ใบมีดหมุนและเพลาได้ม้วนนิ้วมือข้างขวาของโจทก์เข้าไปในเครื่องบด ทำให้นิ้วชี้ นิ้วกลาง นิ้วนาง และนิ้วก้อย ถูกตัดหลุดเข้าไปในเครื่องบดนิ้วละประมาณ ๔-๕ เซนติเมตร โจทก์ต้องเสียค่ารักษาพยาบาลและพิการตลอดชีวิต ขอให้บังคับจำเลยใช้ค่าเสียหาย
จำเลยให้การว่า ไม่เคยช่วยโจทก์แคะพริกและกระเทียมออกจากเครื่องบด และไม่ได้เปิดสวิตช์เครื่องบดจนเป็นเหตุให้โจทก์เสียนิ้วมือไป เหตุเกิดขึ้นเป็นเพราะความประมาทของโจทก์โดยจำเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง โจทก์เรียกร้องค่าเสียหายสูงเกินความจริง โจทก์ได้รับค่ารักษาพยาบาลจากบริษัทกรุงเทพค้าสัตว์ จำกัดและกองทุนทดแทน กรมแรงงาน กระทรวงมหาดไทยแล้ว
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้ว พิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหาย พร้อมดอกเบี้ย
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยปัญหาข้อกฎหมายว่า หลังจากโจทก์ฟ้องคดีแพ่งแล้วอัยการศาลทหารกรุงเทพ (พนักงานอัยการ กรมอัยการ) ได้ฟ้องจำเลยเป็นคดีอาญาขอให้ลงโทษจำเลยฐานกระทำไปโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสซึ่งเป็นมูลกรณีเดียวกัน คดีแพ่งเรื่องนี้จึงเป็นคดีแพ่งที่เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๔๖ และพระราชบัญญัติธรรมนูญศาลทหาร พ.ศ. ๒๔๙๘ มาตรา ๕๔ บัญญัติให้ศาลจำต้องถือข้อเท็จจริงตามที่ปรากฏในคำพิพากษาคดีส่วนอาญา
ศาลทหารกรุงเทพ (ศาลอาญา) ฟังข้อเท็จจริงว่า ตามวันเวลาเกิดเหตุ ผู้เสียหายได้ปิดสวิตช์เครื่องบดพริกกระเทียม เพื่อเอาสิ่งที่ติดค้างอยู่ในเครื่องบดออก โดยเอามือล้วงเข้าไปในเครื่อง จำเลยได้กระทำโดยประมาทไปเปิดสวิตช์เป็นเหตุให้เครื่องบดหมุน ตัดนิ้วมือของโจทก์ขาดไป ๔ นิ้ว ได้รับอันตรายสาหัส พิพากษาลงโทษจำเลย คดีถึงที่สุด เมื่อข้อเท็จจริงในคดีส่วนอาญาฟังได้ดังกล่าวย่อมถือได้ว่า จำเลยทำละเมิดโจทก์
พิพากษายืน
