คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 336/2535

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คนต่างด้าวจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522มาตรา 81 ต้องอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุดหรือถูกเพิกถอน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อระหว่างวันที่ 10 มีนาคม 2531 ถึงวันที่ 10กันยายน 2531 เวลากลางวันและกลางคืนต่อเนื่องกัน จำเลยเป็นบุคคลต่างด้าวเชื้อชาติเขมร สัญชาติเขมร ได้อยู่ในราชอาณาจักรไทยที่ตำบลบ่อพลอย อำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด โดยจำเลยไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทย เหตุเกิดที่ตำบลบ่อพลอยอำเภอบ่อไร่ จังหวัดตราด ขอให้ลงโทษตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมืองพ.ศ. 2522 มาตรา 4, 81
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 81 พฤติการณ์แห่งคดีสมควรปรับจำเลย 10,000 บาท หากไม่ชำระค่าปรับให้บังคับคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 29, 30
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อประมาณปีพ.ศ. 2499 จำเลยเป็นทหารกัมพูชาอิสระได้ช่วยกู้ชาติต่อต้านฝรั่งเศส แล้วหลบหนีเข้ามาประเทศไทยทางตำบลไม้รูดกิ่งอำเภอคลองใหญ่ จังหวัดตราด พร้อมกับพวกรวม 298 คน ทางราชการได้ควบคุมจำเลยกับพวกไว้เป็นเวลา 2 เดือนเศษ หลังจากนั้นได้ปล่อยให้ทำมาหากินอย่างอิสระ ต่อมาวันที่ 15 พฤศจิกายน 2504นายอำเภอเมืองตราด ได้ออกหนังสือรับรองให้ว่า จำเลยเคยอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลห้วงน้ำขาว อำเภอเมืองตราด ปรากฏตามเอกสารหมาย ล.1 ต่อมาวันที่ 28 กันยายน 2514 ปลัดกระทรวงมหาดไทยได้มีหนังสือที่ มท.0206/11519 ตอบข้อหารือแจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดตราดว่าชาวเขมรอิสระจำนวน 298 คน ซึ่งมีจำเลยรวมอยู่ด้วยมิได้อยู่ในข่ายที่จะส่งกลับออกไป เพราะคนเหล่านี้ได้เข้ามาในประเทศไทยก่อนมีการปฏิวัติในเขมร จึงยังไม่ต้องดำเนินการใด ๆ กับคนเหล่านี้ ปรากฏตามเอกสารหมาย ล.5ต่อมาวันที่ 11 มกราคม 2532 รองปลัดกระทรวงมหาดไทยปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทยได้ตอบข้อหารือไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดตราดให้ถือปฏิบัติต่อชาวเขมรอิสระตามหนังสือที่ มท.0206/11519ลงวันที่ 28 กันยายน 2514 ปรากฏตามเอกสารหมาย ล.8 ปัญหาที่จะต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์มีว่า การที่จำเลยอยู่ในราชอาณาจักรไทยตลอดมาดังกล่าวจะมีความผิดตามพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 81 ตามที่โจทก์ฟ้องหรือไม่ เห็นว่าคนต่างด้าวซึ่งจะมีความผิดตามบทมาตราดังกล่าวต้องอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาตหรือการอนุญาตสิ้นสุดหรือถูกเพิกถอนแต่ตามพฤติการณ์ต่าง ๆ ที่ทางราชการได้ปฏิบัติต่อจำเลยประกอบพยานเอกสารดังกล่าวข้างต้น ย่อมรับฟังได้ว่า จำเลยได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและการอนุญาตก็ยังไม่สิ้นสุดหรือถูกเพิกถอนแต่อย่างใด จำเลยจึงไม่มีความผิดตามฟ้อง
พิพากษายืน

Share