แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์จำเลยคิดบัญชีหนี้เดิมกัน แล้วจำเลยทำสัญญากู้เงินให้โจทก์ไว้แทนการจ่ายเงินที่เป็นหนี้กัน เช่นนี้ถือได้ว่า มีการส่งมอบเงินที่กู้ยืมกันเป็นการบริบูรณ์ตามประมลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 650 แล้ว
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองได้กู้เงินโจทก์ไป ๑๖,๔๐๐ บาท จำเลยชำระดอกเบี้ยถึง มิถุนายน ๒๔๙๖ แล้วไม่ชำระ ขอให้ศาลบังคับ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยทั้งสองใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยแก่โจทก์ ๒๘,๗๐๐ บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ยแต่วันฟ้องจนกว่าชำระเสร็จ
จำเลยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์มีเอกสารสัญญากู้ซึ่งพยานโจทก์ยืนยันว่าจำเลยทั้งสองลงลายมือชื่อให้โจทก์ไว้ จำเลยไม่สืบพยานหักล้างแต่อย่างใด จึงฟังได้ตามที่ศาลล่างทั้งสองฟังมาว่าจำเลยทั้งสองได้ทำสัญญากู้เงินโจทก์จริงตามฟ้อง โดยคิดบัญชีหนี้เดิมกันแล้ว จำเลยที่ ๑ เขียนจำนวนเงินลงไปแทนการจ่ายเงินในเวลาทำสัญญา ถือได้ว่ามีการส่งมอบเงินที่กู้ยืมกัน เป็นการบริบูรณ์ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๖๕๐ แล้ว
พิพากษายืน ยกฎีกาจำเลย