แหล่งที่มา : สำนักวิชาการ
ย่อสั้น
โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2551 จำเลยเคยต้องโทษจำคุกมีกำหนด 3 ปี 6 เดือน และปรับ 200,000 บาท ฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1800/2551 ของศาลจังหวัดปทุมธานี ซึ่งมิใช่ความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ จำเลยได้กระทำความผิดในคดีก่อนนั้นในขณะที่มีอายุเกินกว่าสิบแปดปี จำเลยพ้นโทษในคดีดังกล่าวแล้วภายในเวลาห้าปีนับแต่วันพ้นโทษ จำเลยกลับมากระทำความผิดในคดีนี้ขึ้นอีก และจำเลยให้การรับว่าเคยต้องโทษและพ้นโทษตามฟ้องจริง แต่ข้อเท็จจริงปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2557 และสำเนาคำพิพากษาของศาลจังหวัดปทุมธานีท้ายรายงานกระบวนพิจารณาดังกล่าวว่า คดีที่จำเลยถูกกล่าวหาว่าร่วมกับ อ. จำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1800/2551 ของศาลจังหวัดปทุมธานี มีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายนั้น จำเลยถูกฟ้องแยกเป็นคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1322/2552 ของศาลจังหวัดปทุมธานี ซึ่งศาลจังหวัดปทุมธานีพิพากษายกฟ้อง และปรากฏตามสำเนาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และหนังสือรับรองคดีถึงที่สุดท้ายฎีกา ซึ่งโจทก์ไม่ได้แก้ฎีกาให้ปรากฏข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลจังหวัดปทุมธานีและคดีถึงที่สุดแล้ว ดังนี้ จำเลยจึงมิใช่ผู้ที่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกและกระทำความผิดคดีนี้ภายในเวลาห้าปีนับแต่วันพ้นโทษ จึงเพิ่มโทษจำเลยตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 97 ไม่ได้
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 26, 76, 97 และเพิ่มโทษจำเลยตามกฎหมาย
จำเลยให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลคนเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอเพิ่มโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 26 วรรคหนึ่ง, 76 วรรคหนึ่ง จำคุก 3 เดือน และปรับ 5,000 บาท จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 1 เดือน 15 วัน และปรับ 2,500 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 (ที่ถูก คำขออื่นให้ยก) หากจำเลยไม่ชำระค่าปรับ ให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์แผนกคดียาเสพติดพิพากษาแก้เป็นว่า ให้เพิ่มโทษจำคุกจำเลยกึ่งหนึ่งตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 97 เป็นจำคุก 4 เดือน 15 วัน ลดโทษให้กึ่งหนึ่งตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 แล้ว คงจำคุก 2 เดือน 7 วัน ไม่ปรับ ไม่รอการลงโทษจำคุก นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยข้อแรกว่า การที่ศาลอุทธรณ์เพิ่มโทษจำเลยชอบหรือไม่ เห็นว่า แม้คดีนี้โจทก์บรรยายฟ้องว่า เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2551 จำเลยเคยต้องโทษจำคุกมีกำหนด 3 ปี 6 เดือน และปรับ 200,000 บาท ฐานร่วมกันจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1800/2551 ของศาลจังหวัดปทุมธานี ซึ่งมิใช่ความผิดอันได้กระทำโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ จำเลยได้กระทำความผิดในคดีก่อนนั้นในขณะที่มีอายุเกินกว่าสิบแปดปี จำเลยพ้นโทษในคดีดังกล่าวแล้วภายในเวลาห้าปีนับแต่วันพ้นโทษ จำเลยกลับมากระทำความผิดในคดีนี้ขึ้นอีก และจำเลยให้การรับว่าเคยต้องโทษและพ้นโทษตามฟ้องจริง แต่ข้อเท็จจริงปรากฏตามรายงานกระบวนพิจารณาของศาลชั้นต้นลงวันที่ 23 กรกฎาคม 2557 และสำเนาคำพิพากษาของศาลจังหวัดปทุมธานีท้ายรายงานกระบวนพิจารณาดังกล่าวว่า คดีที่จำเลยถูกกล่าวหาว่าร่วมกับนายอธิป จำเลยที่ 1 ในคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1800/2551 ของศาลจังหวัดปทุมธานี มีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายนั้น จำเลยถูกฟ้องแยกเป็นคดีอาญาหมายเลขแดงที่ 1322/2552 ของศาลจังหวัดปทุมธานี ซึ่งศาลจังหวัดปทุมธานีพิพากษายกฟ้อง และปรากฏตามสำเนาคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ และหนังสือรับรองคดีถึงที่สุดท้ายฎีกา ซึ่งโจทก์ไม่ได้แก้ฎีกาให้ปรากฏข้อเท็จจริงเป็นอย่างอื่นว่า ศาลอุทธรณ์พิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลจังหวัดปทุมธานีและคดีถึงที่สุดแล้ว ดังนี้ จำเลยจึงมิใช่ผู้ที่เคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดให้ลงโทษจำคุกและกระทำความผิดคดีนี้ภายในเวลาห้าปีนับแต่วันพ้นโทษ จึงเพิ่มโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 97 ไม่ได้ ที่ศาลอุทธรณ์เพิ่มโทษจำเลยจึงเป็นการไม่ชอบ ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังขึ้น
มีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของจำเลยข้อต่อไปว่า มีเหตุที่จะรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยหรือไม่ เห็นว่า กัญชาที่จำเลยมีไว้ในครอบครองมีปริมาณเพียงเล็กน้อย เมื่อจำเลยไม่เคยกระทำความผิดมาก่อน จึงเห็นควรรอการลงโทษจำคุกให้แก่จำเลยเพื่อให้จำเลยกลับตนเป็นพลเมืองดี ฎีกาของจำเลยข้อนี้ฟังขึ้นเช่นกัน
พิพากษาแก้เป็นว่า ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น