คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1370/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

คดีอาญา ถ้าศาลอุทธรณ์จะพิพากษาไม่ลงโทษหรือลดโทษให้จำเลย หากเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ถึงแม้โจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียวเฉพาะจำเลยอื่นที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องก็ตาม ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยคนที่ถูกศาลชั้นต้นลงโทษให้ความผิดฐานเดียวกัน หรือต่อเนื่องกันได้ คู่ความฝ่ายใดอุทธรณ์ไม่สำคัญตามฎีกาที่ 1031/2498 (ประชุมใหญ่ครั้งที่ 23/2503)

ย่อยาว

คดีนี้โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยฐานลักทรัพย์และฆ่ากระบือโดยไม่มีรับอนุญาต
จำเลยให้การปฏิเสธ
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า นายเหมือยจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๓๕ พระราชบัญญัติอากรฆ่าสัตว์ พ.ศ. ๒๔๘๘ มาตรา ๕, ๑๑ ให้จำคุก นายเหมือยจำเลย ๑ ปี ปรับ ๑๐๐ บาท ส่วนจำเลยอื่นอีก ๔ คน ให้ยกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลยอื่นอีก ๔ คน
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องโจทก์ ปล่อยนายเหมือยจำเลยไปด้วยนอกนั้นยืน
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษนายเหมือยจำเลย และฎีกาข้อกฎหมายว่า ศาลอุทธรณ์ไม่มีอำนาจยกฟ้องนายเหมือยจำเลยตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๒๑๓ มีสารสำคัญว่า ถ้าศาลอุทธรณ์จะพิพากษาไม่ลงโทษหรือลดโทษให้จำเลย หากเป็นเหตุอยู่ในส่วนลักษณะคดี ถึงแม้โจทก์อุทธรณ์ฝ่ายเดียวเฉพาะจำเลยอื่นที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องก็ตาม ศาลอุทธรณ์ก็มีอำนาจพิพากษาตลอดไปถึงจำเลยคนที่ถูกศาลชั้นต้นลงโทษในความผิดฐานเดียวกันหรือต่อเนื่องกันได้ คู่ความฝ่ายใดเป็นผู้อุทธรณ์ไม่สำคัญ
ส่วนข้อเท็จจริงฟังตามศาลอุทธรณ์
พิพากษายืน

Share