คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1367/2509

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

การที่โจทก์ฟ้องให้จำเลยแบ่งทรัพย์ที่โจทก์อ้างว่าเป็นทรัพย์ที่โจทก์และส.ทำมาหาได้ด้วยกัน จึงเป็นฟ้องให้แบ่งทรัพย์ที่ตนเป็นเจ้าของรวมจากจำเลยซึ่งเป็นทายาทของส. คดีโจทก์ไม่มีอายุความ
กรณีที่เจ้าของรวมฟ้องให้แบ่งทรัพย์จากเจ้าของรวมอีกคนหนึ่ง จะนำอายุความเรื่องละเมิดหรือฝากทรัพย์มาบังคับไม่ได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า เมื่อประมาณ 8 ปีมานี้ โจทก์ที่ 1 ได้เป็นสามีภริยากับนายสำรวย ไม้เกตุ ไม่ได้จดทะเบียนสมรส โจทก์ที่ 1 มีเงินสด 1,000 บาท และทองรูปพรรณหนัก 2 บาท ราคา 800 บาท ได้ช่วยกันประกอบอาชีพ เกิดมีทรัพย์สินตามบัญชีทรัพย์อันดับ 1 ราคาประมาณ 7,000 บาท ต่อมาโจทก์ที่ 1 มีครรภ์แล้วคลอดบุตรคือโจทก์ที่ 2 ต่อมานายสำรวยจดทะเบียนสมรสกับจำเลย นายสำรวยถึงแก่กรรม มีทรัพย์สินตามบัญชีทรัพย์ท้ายฟ้องอันดับ 1 และ 2 ทรัพย์อันดับ 1 โจทก์ที่ 1กับนายสำรวยทำมาหาได้ร่วมกัน ส่วนของนายสำรวยอีกครึ่งหนึ่งกับทรัพย์อันดับ 2 ตกทอดได้แก่ทายาท 3 คน รวมทั้งโจทก์ที่ 2 ขอให้ศาลบังคับให้จำเลยแบ่งทรัพย์ให้โจทก์

จำเลยให้การปฏิเสธและว่าคดีโจทก์ขาดอายุความ

ศาลชั้นต้นเห็นว่าทรัพย์ตามบัญชีท้ายฟ้องอันดับ 1 ไม่ใช่ทรัพย์ที่ทำมาหาได้ระหว่างนายสำรวยกับโจทก์ที่ 1 อยู่กินด้วยกัน และโจทก์ที่ 2ไม่ใช่บุตรของนายสำรวย พิพากษายกฟ้อง

โจทก์ทั้งสองอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ทรัพย์ตามบัญชีอันดับ 1 เกิดขึ้นโดยทำมาหากินด้วยกันจริง โจทก์ที่ 2 ไม่เป็นบุตรของนายสำรวย โดยบิดาได้รับรองแล้ว ไม่มีสิทธิขอแบ่ง

พิพากษาแก้เป็นให้จำเลยแบ่งทรัพย์ตามบัญชีทรัพย์อันดับ 1ให้แก่โจทก์ที่ 1 ครึ่งหนึ่ง ฯลฯ

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาเห็นว่า ที่ศาลอุทธรณ์ฟังว่าทรัพย์อันดับ 1 เป็นทรัพย์ที่โจทก์ที่ 1 ทำมาหาได้กับนายสำรวยระหว่างอยู่กินด้วยกันชอบแล้วข้อที่จำเลยฎีกาว่าคดีโจทก์ขาดอายุความแล้ว นั้น เห็นว่า คดีนี้โจทก์ที่ 1 ฟ้องให้จำเลยแบ่งทรัพย์ซึ่งโจทก์ที่ 1 อ้างว่าเป็นทรัพย์ที่โจทก์ที่ 1 และนายสำรวยทำมาหาได้ด้วยกันฟ้องโจทก์จึงเป็นฟ้องให้แบ่งทรัพย์ที่ตนเป็นเจ้าของรวมจากจำเลยซึ่งเป็นทายาทนายสำรวยคดีโจทก์ไม่มีอายุความเพราะกรณีนี้เป็นกรณีที่เจ้าของรวมเรียกให้แบ่งทรัพย์จากเจ้าของรวมอีกคนหนึ่ง จะนำอายุความเรื่องละเมิดหรือเรื่องฝากทรัพย์มาบังคับไม่ได้

พิพากษายืน

Share