คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1366/2497

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้บังคับจำเลยชำระต้นเงินกู้ ๗๕๐๐ บาท พร้อมทั้งดอกเบี้ย
จำเลยให้การแ้กคดีและฟ้องแย้งว่าความจริงเป็นเรื่องเข้าหุ้นส่วนกันตกข้าว โจทก์ลงทุน ๔๐๐๐ บาท ดับสืนค้าอาหารราคา ๓๕๐๐ บาท จำเลยเป็นฝ่ายลงแรง แต่โจทก์ให้จำเลยทำหนังสือสัญญากู้พรางความจริงไว้และยึดเอาหนังสือแสดงกรรมสิทธิหรือใบเสร็จนาไว้ ๒ ฉบับ จำเลยจัดการได้ข้าวมาและขายได้เงิน ๒๓,๗๖๐ บาท ได้มอบให้โจทก์รักษาไว้ เมื่อหักเงินทุนโจทก์ ๗๕๐๐ บาท ออกแล้วคงเหลือกำไรที่โจทก์จะต้องแบ่งให้จำเลย ๘,๑๓๐ บาท จึงขอให้ศาลบังคับให้โจทก์คืนหนังสือแสดงกรรมสิทธิหรือใบเสร็จนา และชำระเงิน ๘,๑๓๐ บาท ให้จำเลย
โจทก์แก้ฟ้องแย้งว่า ไม่ได้เข้าหุ่น และไม่ได้รับเงิน ๒๓,๗๖๐ บาทไว้และตัดฟ้องว่า เป็ฯการนำสืบแก้ไขเอกสาร และฟ้องแย้งไม่เกี่ยวกับฟ้องเดิม
ศาลขั้นต้นฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยสืบสมพิพาษาให้ยกฟ้องโจทก์ ให้โจทก์ชำระเงิน ๘,๑๓๐ บาท แต่ำจเลยกับให้คืนหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ หรือใบเสร็จนา
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่าจำเลยจำสืบความจริงเป็นเรื่องหุ้นส่วนมิใช่กู้เงินกันไม่ได้ ต้องห้ามตาม ป.วิ.แพ่ง ม. ๙๔ พิพากษากลับให้จำเลยใช้ต้นเงินและดอกเบี้ยตามสัญญากู้
จำเลยฏีกา
ศาลฏีกาเห็นว่าตามฟ้องแย้งจำเลยรับว่าได้ทำสัญญากู้ให้โจทก์ไม่ชำระให้ ซึ่งเป็นมูลหนี้ที่จะหักกลบลบกันได้ และากรนำสืบถึงมูลหนี้ตามฟ้องแย้ง ไม่ใช่เป็นการนำสืบเปลี่ยนแปลงแก้ไขเอกสาร ศาลอุทธรณ์ยังไม่ได้วินิจฉัยข้อเท็จจริงตามฟ้องแย้ง จึงพิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์เสีย ให้พิจารณาพิพากษาใหม่

Share