คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1365/2536

แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ

ย่อสั้น

การนับโทษต่อจากโทษของจำเลยในคดีอื่นได้ไม่เกิน 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2) นั้น ต้องปรากฏว่าคดีอื่นนั้นเป็นการกระทำความผิดในลักษณะที่เกี่ยวพันกันกับคดีที่ขอให้นับโทษต่อจนอาจจะฟ้องเป็นคดีเดียวกัน หรือรวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันได้ปรากฏว่าผู้เสียหายทั้ง 5 คดีก่อนไม่ใช่บุคคลเดียวกันกับผู้เสียหายในคดีนี้ พยานหลักฐานทั้ง 5 คดีก่อนก็ไม่ใช่พยานหลักฐานชุดเดียวกันกับคดีนี้ ทั้ง 5 คดีดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกันกับคดีนี้จนอาจจะฟ้องเป็นคดีเดียวกันหรือรวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันได้จึงนับโทษคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยทั้ง 5 คดีดังกล่าว โดยรวมโทษจำคุกทั้งสิ้นเกิน 20 ปีได้ แม้ศาลชั้นต้นจะได้ออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุดแล้วก็ตาม หากปรากฏว่าการนับโทษต่อขัดต่อบทบัญญัติมาตรา 91(2) แห่งประมวลกฎหมายอาญา ศาลชั้นต้นย่อมจะมีคำสั่งแก้ไขหมายจำคุกคดีถึงที่สุดใหม่ได้ ไม่เป็นการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาเพราะเป็นเรื่องการบังคับคดี

ย่อยาว

คดีสืบเนื่องมาจากโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 264, 265, 267, 268, 33, 91 และพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 6) พ.ศ. 2526 มาตรา 4 ริบของกลางกับให้นับโทษของจำเลยต่อจากโทษของจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่7576/2532, 8516/2532, 8839/2532, และ 279/2533 ของศาลชั้นต้นนับโทษของจำเลยต่อจากโทษของจำเลยที่ 2 ในคดีหมายเลขแดงที่6083/2531 ของศาลชั้นต้น และนับโทษของจำเลยต่อจากโทษของจำเลยในคดีหมายเลขดำที่ 80/2533 ของศาลชั้นต้น
จำเลยให้การรับสารภาพ และรับว่าเป็นบุคคลเดียวกับจำเลยในคดีที่โจทก์ขอให้นับโทษต่อ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามฟ้อง ให้เรียงกระทงลงโทษข้อหาปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอม ซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 265 ประกอบด้วยมาตรา 268 ให้ลงโทษตามมาตรา 268 จำคุกกรรมละ 2 ปี รวม 9 กรรม จำคุก 18 ปี ข้อหาแจ้งให้เจ้าพนักงานจดข้อความอันเป็นเท็จลงในเอกสารราชการซึ่งเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 267 จำคุก 2 ปี รวมจำคุกจำเลยทั้งสิ้น20 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา นับเป็นเหตุบรรเทาโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 เห็นสมควรลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุกจำเลยมีกำหนด 10 ปี นับโทษจำเลยต่อจากคดีหมายเลขแดงที่ 7576/2532, 8516/2532, 8839/2532, 279/2533,6083/2531 ของศาลชั้นต้น สำหรับคำขอให้นับโทษจำเลยต่อจากคดีหมายเลขดำที่ 80/2533 ของศาลชั้นต้น ให้ยกเพราะคดีดังกล่าวดังกล่าวยังไม่พิพากษา ของกลางริบ
หลังจากคดีถึงที่สุดแล้ว จำเลยได้ยื่นคำร้องว่า การที่ศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาให้นับโทษของจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยในคดีหมายเลขแดงแต่ละคดีที่โจทก์ขอมา ในคำขอท้ายฟ้องนั้นเมื่อรวมโทษจำคุกของแต่ละคดีแล้ว โทษจำคุกจะเกิน 20 ปี ทำให้จำเลยต้องรับโทษจำคุกสูงกว่าโทษจำคุกที่ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2)ห้ามไว้ ขอให้ศาลชั้นต้นมีคำสั่งเพิกถอนหมายจำคุกเดิมแล้วออกหมายจำคุกให้จำเลยใหม่ โดยมิให้นับโทษของจำเลยในคดีนี้ต่อจากโทษในคดีอื่นเกิน 20 ปี
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งว่า จำเลยต้องได้สิทธิตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 91(2) จึงให้เพิกถอนคำสั่งเดิม มีคำสั่งใหม่ให้แก้ไขหมายเดิมโดยออกหมายใหม่ระบุว่า เมื่อนับโทษต่อแล้ว โทษจำคุกทั้งสิ้นมิให้เกิน 20 ปี
โจทก์อุทธรณ์คำสั่งของศาลชั้นต้น
ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “แม้คดีนี้ศาลชั้นต้นจะมีคำพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย และศาลชั้นต้นได้อ่านคำพิพากษาให้คู่ความฟังกับได้ออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุด โดยให้นับโทษคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยทั้ง 5 คดี รวมแล้วเกิน 20 ปี จนคดีถึงที่สุดแล้วก็ตาม หากปรากฏว่าการนับโทษต่อดังกล่าวขัดต่อบทบัญญัติมาตรา 91(2) แห่งประมวลกฎหมายอาญา ศาลชั้นต้นก็ย่อมจะมีคำสั่งแก้ไขหมายจำคุกคดีถึงที่สุดใหม่เป็นให้นับโทษคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยทั้ง 5 คดีดังกล่าวแล้ว โดยรวมโทษจำคุกทั้งสิ้นไม่เกิน 20 ปี ได้ ไม่เป็นการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงคำพิพากษาแต่อย่างใด เพราะเป็นเรื่องการบังคับคดีที่ศาลชั้นต้นจะต้องออกหมายจำคุกคดีถึงที่สุดให้ถูกต้องตามกฎหมาย ศาลชั้นต้นจึงแก้ไขหมายจำคุกที่ไม่ถูกต้องให้ถูกต้องได้ฎีกาข้อนี้ของโจทก์ฟังไม่ขึ้น
ปัญหาต่อไปตามฎีกาของโจทก์มีว่า จะนับโทษคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยในคดีหมายเลขแดงที่ 7576/2532, 8516/2532, 8839/2532,279/2533 และ 6083/2531 ของศาลชั้นต้น รวม 5 คดี เกิน 20 ปีได้หรือไม่ เห็นว่า การที่จะนับโทษคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยในคดีอื่นได้ไม่เกิน 20 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91(2) นั้นต้องปรากฏว่าคดีอื่นดังกล่าวเป็นการกระทำความผิดในลักษณะที่เกี่ยวพันกันกับคดีนี้จนอาจจะฟ้องเป็นคดีเดียวกันหรือรวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันได้ ศาลฎีกาได้ตรวจดูสำนวนคดีหมายเลขแดงที่7576/2532, 8516/2532, 8839/2532, 279/2533 และ 6083/2531ที่โจทก์ขอให้นับโทษคดีนี้ต่อแล้วปรากฏว่า ผู้เสียหายทั้ง 5 คดีดังกล่าวไม่ใช่บุคคลเดียวกันกับผู้เสียหายในคดีนี้ พยานหลักฐานทั้ง 5 คดี ดังกล่าวก็ไม่ใช่พยานหลักฐานชุดเดียวกันกับคดีนี้ทั้ง 5 คดี ดังกล่าวไม่เกี่ยวพันกันกับคดีนี้จนอาจจะฟ้องเป็นคดีเดียวกันหรือรวมพิจารณาพิพากษาเข้าด้วยกันได้ จึงนับโทษคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลยทั้ง 5 คดี ดังกล่าวโดยรวมโทษจำคุกทั้งสิ้นเกิน 20 ปี ได้ กรณีไม่ตกอยู่ในบังคับมาตรา 91(2) แห่งประมวลกฎหมายอาญา ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้นไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาโจทก์ฟังขึ้น”
พิพากษากลับ ให้นับโทษจำเลยคดีนี้ต่อจากโทษของจำเลย ในคดีหมายเลขแดงที่ 7576/2532, 8516/2532, 8839/2532, 279/2533และ 6083/2531 ของศาลชั้นต้น โดยรวมโทษจำคุกทั้งสิ้นเกิน 20 ปี ได้

Share