คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1364/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ทำสัญญาจ้างทำถนนโดยกำหนดเวลาที่ต้องทำให้เสร็จไว้ ถ้าทำช้ากว่ากำหนดให้ปรับวันละ 500 บาท หรือผู้จ้างจะบอกเลิกสัญญาก็ได้ และมีข้อสัญญาไว้อีกข้อหนึ่งด้วยว่า ผู้ว่าจ้างจะบอกเลิกสัญญาเสียเมื่อไรก็ได้ โดยต้องบอกล่วงหน้า 15 วัน ครั้นผู้รับจ้างทำไม่เสร็จตามกำหนด ได้ขอขยายเวลาต่อไปและตกลงยอมเสียค่าปรับวันละ 700 บาท แทนอัตราวันละ 500 บาท หากทำไม่เสร็จตามกำหนดที่ขยายออกไป ผลที่สุดก็ทำไม่เสร็จตามกำหนด เวลาที่ขยายให้ ดังนี้ หาทำให้สิทธิที่จะบอกเลิกสัญญาหมดไปไม่ และกรณีเช่นนี้ ไม่ต้องบอกล่วงหน้า 15 วัน เพราะกำหนดที่ต้องบอกล่วงหน้านั้นหมายถึงบอกเลิกในระหว่างอายุสัญญา

ย่อยาว

โจทก์จ้างจำเลยที่ ๑ บูรณะและลาดยางถนน จำเลยที่ ๒ เป็นผู้จัดการของจำเลยที่ ๑ จำเลยที่ ๓ เป็นธนาคารผู้ค้ำประกัน ตามสัญญากำหนดเวลาที่ต้องทำให้เสร็จไว้ ถ้าทำงานช้ากว่ากำหนดให้ปรับวันละ ๕๐๐ บาท จนกว่างานจะเสร็จ หรือโจทก์จะบอกเลิกสัญญาก็ได้ นอกจากนั้น ในสัญญาข้อ ๑๘ ระบุว่าโจทก์มีสิทธิจะเลิกสัญญาเสียได้ทุกเมื่อโดยบอกกล่าวให้ผู้รับจ้างทราบล่วงหน้า ๑๕ วัน จำเลยทำให้เสร็จตามเวลาไม่ได้ จึงขอขยายเวลาต่อไปอีกโดยสัญญาว่า ถ้าไม่เสร็จภายในกำหนดที่ขยายออกไปนั้น ก็จะยอมเสียค่าปรับให้วันละ ๗๐๐ บาท แทนอัตราวันละ ๕๐๐ บาท แต่จำเลยก็ไม่สามารถทำให้เสร็จได้ ตามกำหนด โจทก์จึงบอกเลิกสัญญาและฟ้องให้จำเลยเสียค่าปรับตามสัญญา
่จำเลยต่อสู้ว่า เมื่อมีการตกลงสัญญากันใหม่ว่าปรับวันละ ๗๐๐ บาท แล้วจะบอกเลิกสัญญาไม่ได้ และการบอกเลิกตามสัญญา ก็ต้องบอกล่วงหน้าก่อน ๑๕ วัน จึงจะชอบ
ศาลแพ่งวินิจฉัยว่า การเปลี่ยนอัตราค่าปรับจากวันละ ๕๐๐ บาท เป็น ๗๐๐ บาท นั้น หาทำให้ข้อกำหนดเดิมที่ให้สิทธิเลิกสัญญาหมดไปไม่ โจทก์ยังมีสิทธิบอกเลิกสัญญาได้ และการบอกเลิกโดยต้องบอกล่วงหน้า ๑๕ วันนั้น หมายถึงบอกเลิกในระหว่างอายุสัญญา มิใช่เรื่องบอกเลิกในกรณีผิดสัญญามานานแล้ว ดังในคดีนี้ จึงพิพากษาให้จำเลยชำระเงินแก่โจทก์
ศาลอุทธรณ์และศาลฎีกาพิพากษายืน ตามข้อวินิจฉัยดังกล่าวแล้วของศาลชั้นต้น

Share