แหล่งที่มา : สำนักงานส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
คำให้การของจำเลยแม้จะไม่อ้างเหตุแห่งการปฏิเสธ อันจะทำให้จำเลยไม่มีประเด็นที่จะต้องนำสืบ แต่โจทก์ยังมีภาระจะต้องสืบพยานให้ได้ความตามข้ออ้างของโจทก์.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ 1 กู้เงินโจทก์ โดยมีจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกันรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วม ขอให้บังคับจำเลยทั้งสองชำระเงิน 59,251.62 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 17.5 ต่อปี จากต้นเงิน47,373.78 บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จให้โจทก์
จำเลยที่ 1 ขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา
จำเลยที่ 2 ให้การว่า ไม่ได้เข้าเป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1ตามฟ้อง จำเลยที่ 2 เคยค้ำประกันจำเลยที่ 1 แต่ภาระผูกพันสิ้นสุดไปแล้ว เอกสารท้ายฟ้องทั้งหมดไม่ถูกต้องแท้จริง ขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้สืบพยานโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ส่วนที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 เห็นว่าคดีพอวินิจฉัยได้ สั่งงดสืบพยานโจทก์กับจำเลยที่ 2 และพิพากษาให้จำเลยทั้งสองร่วมกันชำระเงิน 59,251.62บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 17.5 ต่อปีจากต้นเงิน 47,373.78 บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ ให้จำเลยทั้งสองร่วมกันใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์โดยกำหนดค่าทนายความ 1,000 บาท
จำเลยที่ 2 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกคำพิพากษาศาลชั้นต้นที่เกี่ยวกับจำเลยที่ 2 และคำสั่งที่ให้งดสืบพยานระหว่างโจทก์กับจำเลยที่ 2 เสีย ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาพิพากษาเกี่ยวกับจำเลยที่ 2ใหม่ตามรูปคดี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “คดีคงมีปัญหาว่าศาลชั้นต้นสั่งให้งดสืบพยานโจทก์กับจำเลยที่ 2 และให้สืบพยานโจทก์ สำหรับจำเลยที่ 1ซึ่งขาดนัดยื่นคำให้การและขาดนัดพิจารณา แล้วพิพากษาให้จำเลยที่ 2ร่วมกับจำเลยที่ 1 รับผิดชำระหนี้ให้แก่โจทก์ตามฟ้องนั้นชอบหรือไม่ศาลฎีกาเห็นว่าการที่จำเลยที่ 2 ยื่นคำให้การปฏิเสธว่ามิได้เป็นผู้ค้ำประกันจำเลยที่ 1 ตามฟ้อง จำเลยที่ 2 เคยค้ำประกันจำเลยที่ 1แต่ภาระผูกพันตามกฎหมายสิ้นสุดไปแล้ว เอกสารท้ายฟ้องไม่ถูกต้องถือได้ว่าเป็นการปฏิเสธฟ้องของโจทก์ทั้งสิ้น แม้จะไม่อ้างเหตุแห่งการปฏิเสธทำให้จำเลยที่ 2 ไม่มีประเด็นที่จะต้องนำสืบแต่โจทก์ก็มีภาระที่จะต้องนำสืบพิสูจน์ให้เห็นว่าจำเลยที่ 2 เป็นผู้ค้ำประกัน และต้องรับผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ตามฟ้องด้วย การที่ศาลชั้นต้นสั่งให้งดสืบพยานโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 นั้น ทำให้จำเลยที่ 2 หมดโอกาสที่จะซักค้านพยานโจทก์ทั้งที่จำเลยที่ 2ได้มาศาลในวันสืบพยานโจทก์สำหรับจำเลยที่ 1 ฉะนั้นที่ศาลชั้นต้นสั่งให้งดสืบพยานโจทก์สำหรับจำเลยที่ 2 ด้วย จึงเป็นการพิจารณาที่ไม่ถูกต้องศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว”
พิพากษา.