คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1361/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยยิงผู้เสียหายด้วยปืนพกสั้น 1 นัดในระยะ 3 วา กระสุนถูกที่บริเวณตะโพกขวาเป็นบาดแผล 2 แห่ง ลักษณะเป็นแผลตื้นแค่ผิวหนังแผลที่ 1 เป็นแผลกลมเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.8 เซนติเมตร มีลักษณะบวมรอบ ๆ แผลที่ 2 เป็นวงกลมรี เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.8 เซนติเมตร ยาว 1.5 เซนติเมตร รักษาประมาณ 10 วันหาย ปืนของกลางยึดมาไม่ได้คงได้หลักฐานเพียงว่าปืนที่ใช้ยิงเป็นปืนพกสั้น ลักษณะบาดแผลปรากฏว่ากระสุนแล่นเข้าตรง ๆ แต่ไม่ทะลุเข้าไปถึงในเนื้อ มีแต่ลักษณะช้ำบวมที่ผิวหนัง ซึ่งหากเป็นปืนที่สามารถทำให้ผู้ถูกยิงถึงตายแล้ว ระยะที่ยิงห่างกันเพียง 3 วา กระสุนก็น่าจะทะลุเข้าถึงในเนื้อโดยมิต้องสงสัย กรณีเช่นนี้ต้องถือเป็นการกระทำที่ไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ เพราะเหตุปัจจัยที่ใช้ในการกระทำผิด จำเลยกระทำโดยเจตนาฆ่าจึงคงมีความผิดตามมาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 81

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงนายปัน จันทร์หน่อแก้ว1 นัด โดยเจตนาฆ่า แต่การกระทำไม่บรรลุผลสมเจตนา โดยกระสุนปืนถูกนายปันที่บริเวณตะโพกขวาอันเป็นที่ไม่สำคัญ เนื่องจากฝีมือการยิงของจำเลยไม่แม่นยำพอ ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288, 80 ริบของกลาง

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบมาตรา 80 ให้จำคุกจำเลย 10 ปี ของกลางริบ

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า กรณีปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 81เพราะการกระทำไม่สามารถบรรลุผลอย่างแน่แท้ พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 81 ให้จำคุก 2 ปีนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามศาลชั้นต้น

โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยขั้นพยายาม ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288 ประกอบมาตรา 80

ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าจำเลยใช้อาวุธปืนพกสั้นยิงผู้เสียหายในระยะ3 วา ถูกที่บริเวณตะโพกขวา เป็นบาดแผล 2 แห่ง ลักษณะบาดแผลเป็นแผลตื้นแค่ผิวหนังแผลที่หนึ่งเป็นแผลกลม เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.8 เซนติเมตร มีลักษณะบวมรอบ ๆ แผลที่สองเป็นวงกลมรีเส้นผ่าศูนย์กลาง 0.8 เซนติเมตร ยาว 1.5 เซนติเมตร รักษาประมาณ 10 วันหาย ของกลางยึดได้แต่หมอนกระสุนปืน 2 ชิ้น และเม็ดกระสุนปืน 4 เม็ด

ศาลฎีกาเห็นว่า ตามปกติถือว่าปืนเป็นอาวุธที่ร้ายแรงอาจถึงตายแต่คดีนี้จับปืนของกลางไม่ได้ คงยึดได้แต่หมอนกระสุนและเม็ดกระสุนปืนจึงไม่สามารถทราบได้ว่าปืนที่จำเลยใช้ยิงจะมีความร้ายแรงเพียงไร คงอาศัยพยานหลักฐานในสำนวนเป็นเครื่องประกอบวินิจฉัย ซึ่งได้ความแต่เพียงว่าปืนที่จำเลยใช้ยิงเป็นอาวุธปืนพกสั้น จะเป็นปืนที่ทำขึ้นเองหรือทำมาจากที่ใดไม่ปรากฏลักษณะของบาดแผลปรากฏว่ากระสุนเข้าตรง ๆ มิใช่เฉี่ยวหรือแฉลบไปแต่อย่างใดและกระสุนก็ไม่ทะลุเข้าไปถึงในเนื้อเลย มีแต่ช้ำบวมที่ผิวหนังรักษาประมาณ 10 วันหายเท่านั้น ผู้เสียหายจึงได้รับอันตรายแก่กายเพียงเล็กน้อย ย่อมแสดงว่าอาวุธปืนที่จำเลยใช้ยิงไม่อาจทำให้ผู้ถูกยิงถึงตายได้ แม้จะถูกอวัยวะอื่นที่สำคัญของร่างกายถ้าหากเป็นปืนที่สามารถทำให้ผูกถูกยิงถึงตายได้แล้ว อย่างน้อยก็น่าจะทะลุเข้าไปในเนื้อด้วยโดยไม่ต้องสงสัย เพราะระยะที่ยิงมาห่างเพียง 3 วาเท่านั้น กรณีนี้ต้องปรับด้วยประมวลกฎหมายอาญามาตรา 81 โดยถือว่าจำเลยมุ่งประสงค์ต่อผล ซึ่งกฎหมายบัญญัติเป็นความผิด แต่ไม่สามารถบรรลุผลได้อย่างแน่แท้ เพราะเหตุปัจจัยซึ่งใช้ในการกระทำผิดตามนัยแห่งคำพิพากษาฎีกาที่ 107/2510 หาใช่มาตรา 80 ดังที่โจทก์ฎีกาไม่ คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ชอบแล้วฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น

พิพากษายืน

Share