คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1361/2503

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

บรรยายฟ้องว่าจำเลยสมคบกันใช้ไฟจุดเผาป่าที่ดินของจำเลยเองแล้วไม่ระมัดระวังดูแลให้ดี ไฟได้ไหม้ลุกลามไปติดสวนของนางบุญ เป็นเหตุให้ต้นผลไม่ต่าง ๆ ของนางบุญเสียหาย ดังนี้ ถึงแม้ในฟ้องไม่ได้ระบุว่า จำเลยกระทำโดยประมาท ก็พอเข้าใจได้ในตัวจำเลยกระทำโดยประมาท เป็นฟ้องที่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 158 แล้ว

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันใช้ไฟจุดเผาป่าที่ดินของจำเลยเองแล้วไม่ระมัดระวังดูแลให้ดี ไฟได้ไหม้ลุกลามไปติดสวนของนางบุญ เป็นเหตุให้ต้นผลไม่ต่าง ๆ ของนางบุญเสียหาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๕๙, ๒๒๕ จำเลยให้การปฏิเสธ ต่อมาจำเลยที่ ๔ ขอถอนคำให้การเดกิ ยอมรับสารภาพตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นฟังว่าจำเลยมิได้ประมาท พิพากษายกฟ้อง
โจทก์และโจทก์ร่วมอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ฟ้องไม่ชอบด้วยประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘ (๕) พิพากษายืนโดยไม่ต้องวินิจฉัยข้อเท็จจริง
อัยการโจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ฟ้องไม่จำเป็นต้องระบุว่า จำเลยกระทำโดยประมาท แต่ต้องบรรยายใจความให้พอเข้าใจว่ามีลักษณะหรือพฤติการณ์เข้าหลักเกณฑ์ในบทกฎหมายฐานประมาท
ฟ้องของโจทก์คดีนี้พอเข้าใจได้ว่าจำเลยมิได้ใช้ความมาระมัดระวังอย่างบุคคลในภาวะเช่นนั้น จะต้องมีความวิสัย ปล่อยให้ไฟลุกลามไปติดสวนของผู้อื่นอันเป็นการประมาทอยู่ในตัว เป็นฟ้องที่ชอบด้วย ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๕๘ แล้ว
พิพากษาให้ยกคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยข้อเท็จจริงแล้วพิพากษาใหม่

Share