คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1358-1359/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้เป็นเจ้าของอาคารได้พยายามที่จะซ่อมแซมอาคารของตนที่ชำรุดทรุดโทรม แต่ผู้เช่าซึ่งครองอาคารอยู่ขัดขวาง ไม่ยอมออกจากอาคาร จึงทำการซ่อมไม่ได้ เจ้าของอาคารจึงขายอาคารให้จำเลย เมื่อตกมาเป็นของจำเลยแล้ว จำเลยก็ยังพยายามที่จะหาทางรื้อถอนเพื่อป้องกันอันตรายอันอาจมีขึ้น แต่ผู้เช่าก็คงขัดขวางเช่นเดิมจำเลยร้องต่อกรมการอำเภอ แต่ทางอำเภอก็ไม่อาจช่วยจัดการให้ได้ มิหนำซ้ำผู้เช่ายังไปรับรองต่ออำเภออีกว่าถ้าเกิดความเสียหายใดๆ ขึ้น ผู้เช่าจะเป็นผู้รับผิดชอบเอง แต่แล้วผู้เช่าก็หาได้จัดการบำบัดปัดเป่า เพื่อมิให้เกิดอันตรายขึ้นอย่างใดไม่ คงปล่อยทิ้งไว้ จนกระทั่งฝาผนังตึกพังลงมาทับตึกของโจทก์เสียหาย ดังนี้ จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของอาคารที่พัง ไม่จำต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้นตามที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 434

ย่อยาว

คดีได้ความว่า ห้องแถวของจำเลยพังทับตึกของโจทก์ เสียหายโจทก์จึงฟ้องเรียกค่าเสียหายจากจำเลย

ห้องแถวนี้ เดิมเป็นของนายอมร ได้ให้นายจางยุ่งจุงเช่าอยู่ค่าเช่าเดือนละ 6 บาท ฝาผนังด้านที่พังนี้ ชำรุดมานานแล้วเจ้าของบ้านจะซ่อมแต่นายจางยุ่งจึงไม่ยอมออก จึงซ่อมไม่ได้ ต่อมาจำเลยได้ซื้อห้องแถวนี้ไว้จากเจ้าของเดิมแล้วขอให้นายจางยุ่งจุงออก นายจางยุ่งจุงไม่ยอมไป จำเลยจึงได้ไปร้องต่ออำเภอ ๆ เปรียบเทียบแต่นายจางยุ่งจุงไม่ยอมออกจากห้อง อำเภอไม่สามารถจัดการได้ เพราะมีพระราชบัญญัติควบคุมค่าเช่า ฯลฯ คุ้มครองผู้เช่านายจางยุ่งจุงได้บอกอำเภอว่า ถ้าเกิดการเสียหายจะยอมรับใช้เอง อำเภอจึงทำบันทึกคำรับรองนี้ไว้ นายจางยุ่งจุงจึงคงอยู่ในห้องนี้ต่อมา โดยมิได้จัดการป้องกันที่จะไม่ให้เกิดอันตรายต่อผู้อื่นประการใด ฝาผนังห้องชำรุดอยู่ จึงได้พังลงมา ก่อให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยผู้เป็นเจ้าของห้องแถวไม่ต้องรับผิดตามนัยแห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 434 พิพากษาให้ยกฟ้อง

โจทก์อุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยเป็นเจ้าของอาคารที่ชำรุดทรุดโทรมได้ปล่อยปละละเลยไม่บำบัดปัดป้อง เป็นเหตุให้ผนังห้องพังทับอาคารทรัพย์สินของโจทก์เสียหาย ได้ชื่อว่าจำเลยก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของโจทก์ด้วยความประมาท จำเลยต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่โจทก์ฐานละเมิดตาม มาตรา 420 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ จึงพิพากษาให้จำเลยใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ ฯลฯ

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกา เห็นว่า ตามข้อเท็จจริงที่กล่าวแล้ว จำเลยซึ่งเป็นเจ้าของไม่จำต้องรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น ดังที่บัญญัติไว้ใน ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 434

จึงพิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share