แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
การที่บุคคลใดประดิษฐ์เครื่องหมายการค้าขึ้นเพื่อสำแดงว่าสินค้านั้น ๆ เป็นของตน แม้จะยังไม่ได้สำแดงกับสินค้าของตน ก็ย่อมถือเป็นเครื่องหมายการค้าตามนัยแห่งมาตรา 1 พระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2474
ตราบใดที่เครื่องหมายการค้าของบุคคลใดยังไม่ได้จดทะเบียนตามกฎหมาย บุคคลนั้นย่อมไม่มีสิทธิที่จะนำคดีสู่ศาลเพื่อป้องกันเครื่องหมายการค้าของตนที่ยังไม่ได้จดทะเบียนว่าถูกละเมิดสิทธิโดยถูกลอกหรือเลียนแบบเครื่องหมายการค้านั้น ทั้งนี้ ตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.2474 มาตรา 29
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์นำเครื่องหมายการค้าสำหรับสินค้าจำพวกที่ ๔๓ คือสินค้าสุราเมรัยไปจดทะเบียนต่อนายทะเบียนเครื่องหมายการค้า ๒ เครื่องหมาย (ตราคนแก่ชูขวด) ต่อมาโจทก์ทราบจากนายทะเบียนเครื่องหมายการค้าว่า จำเลยได้ขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าสำหรับสินค้าสุราเมรัย (ตราคนแก่ชูขวดและตรานักกล้าม) ๓ เครื่องหมาย เครื่องหมายการค้าของโจทก์ได้ใช้สำหรับสินค้าสุรายาเมามาแต่ผู้เดียว เป็นเวลานานและเป็นที่รู้จักกันทั่วไป ส่วนเครื่องหมายของจำเลยยังไม่เคยใช้สำหรับสินค้าของจำเลยเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ โดยคัดลอกทำเลียนแบบจนเหมือนหรือคล้าย เครื่องหมายการค้าของโจทก์ ขอให้ห้ามจำเลยขอจดทะเบียน เครื่องหมายการค้า โจทก์มีสิทธิที่จะขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้านี้ได้
จำเลยให้การต่อสู้ จำเลยได้ยื่นคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าจริงแต่ไม่เหมือนคล้ายหรือเลียนแบบของโจทก์ และจำเลยได้ยื่นคำขอจดทะเบียนก่อนโจทก์ ฝ่ายโจทก์เป็นผู้คัดลอกและทำเลียนแบบเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ที่โจทก์ฟ้องว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์ใช้มานานแต่ผู้เดียว ไม่เป็นความจริง และตัดฟ้องว่า ฟ้องโจทก์เคลือบคลุม โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้อง เพราะเครื่องหมายการค้าของโจทก์ตามฟ้องยังไม่ได้จดทะเบียนจะฟ้องร้องคดีไม่ได้ ต้องห้ามตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า มาตรา ๒๙
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วฟังว่า เครื่องหมายการค้านี้เดิมเป็นของห้างหุ้นส่วนระหว่างโจทก์และจำเลย เมื่อแยกการค้ากัน โจทก์นำเครื่องหมายการค้านี้ไปใช้กับสินค้าของตนก่อนโจทก์ย่อมมีสิทธิดีกว่า เพราะจำเลยยังไม่ได้ใช้เครื่องหมายการค้านั้นกับสินค้าของจำเลย เป็นแต่แข่งขันกันผลิตสินค้าชนิดและยี่ห้องเดียวกันมา การที่จำเลยไม่ได้ใช้เครื่องหมายการค้าดังฟ้องกับสินค้าของจำเลย แต่ชิงไปจดทะเบียนเสียก่อน จึงตกเป็นฝ่ายใช้สิทธิโดยไม่สุจริต พิพากษาว่าโจทก์มีสิทธิขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า ๒ เครื่องหมาย (ตราคนแก่ชูขวด) ดีกว่าจำเลย ส่วนฟ้องโจทก์เกี่ยวกับเครื่องหมายการค้าที่จำเลยขอจดทะเบียน (ตรานักกล้าม) ให้ยกเสีย
จำเลยฝ่ายเดียวอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ฟังว่า เครื่องหมายการค้าของโจทก์ท้ายฟ้อง ๒ เครื่องหมาย รูปจีนแก่ยืนชูขวดเทียบกับเครื่องหมายการค้าของจำเลย (รูปจีนแก่ยืนชูขวด) หมายเลข ๓ แล้ว เหมือนกันจนลวงให้คนธรรมดาหลงเชื่อว่าเป็นของโจทก์ซึ่งได้ใช้มาก่อนจำเลยแล้ว โจทก์จึงมีสิทธิดีกว่าจำเลยในเครื่องหมายการค้านั้น และเครื่องหมาย(รูปจีนแก่ยืนชูขวด) หมายเลข ๔ ของจำเลยไม่มีลักษณะคล้ายกับของโจทก์จนลวงให้คนธรรมดาหลงเชื่อว่าเป็นของโจทก์เพราะแตกต่างกันมาก พิพากษาแก้ว่าคำขอจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าของจำเลย (รูปจีนแก่ยืนชูขวด) หมายเลข ๔ ไม่เหมือนหรือคล้ายเครื่องหมายของโจทก์ ให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะเครื่องหมายนี้ นอกจากที่แก้คงให้เป็นตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์จำเลยฎีกา
คดีมาสู่ศาลฎีกาเฉพาะปัญหาเรื่องเครื่องหมายการค้าของโจทก์ ๒ เครื่องหมาย (รูปจีนแก่ยืนชูขวด) ที่โจทก์ขอจดทะเบียนและเครื่องหมายการค้าของจำเลย ๒ เครื่องหมาย (รูปจีนแก่ยืนชูขวด) หมายเลข ๓ และหมายเลข ๔
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า เดิมโจทก์จำเลยกระทำกิจการค้าสุรายานี้ร่วมกัน เมื่อโจทก์แยกการค้ากับจำเลยแล้ว คงใช้เครื่องหมายการค้าตราธงคู่ เพิ่งใช้เครื่องหมายการค้าตราคนแก่ชูขวดเมื่อต้นปี พ.ศ.๒๕๐๓ และพยานหลักฐานโจทก์รับฟังไม่ได้ชัดว่า โจทก์คิดเครื่องหมายการค้า รูปคนแก่ชูขวดขึ้นก่อนฝ่ายจำเลย
ศาลฎีกาเห็นว่า เครื่องหมายการค้าของจำเลยที่คิดประดิษฐ์ขึ้นนั้น แม้จะยังไม่ได้ใช้สำแดงกับสินค้าของตน ก็ถือได้ว่า เป็นเครื่องหมายการค้าตามนัยแห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.๒๔๗๔ มาตรา ๓ วรรค ๒ อนึ่ง เครื่องหมายการค้าของโจทก์นั้นก็ยังไม่ได้จดทะเบียน โจทก์ย่อมไม่มีสิทธิที่จะนำคดีสู่ศาล ขอให้ห้ามจำเลยเพื่อป้องกันเครื่องหมายการค้าของตนที่ยังไม่ได้จดทะเบียนนั้นว่า ถูกจำเลยลอกหรือเลียนแบบโดยละเมิดสิทธิ ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ.๒๔๗๔ มาตรา ๒๙ และคำพิพากษาศาลฎีกาที่ ๑๗๖๗/๒๔๙๙
พิพากษาแก้ ให้ยกฟ้องโจทก์