คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1353/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเข้าไปในเรือนของผู้เสียหายกลางคืนเวลา 1 นาฬิกาโดยบุตรีของผู้เสียหายซึ่งรักใคร่กับจำเลยมาก่อนนัดให้เข้าไปและพาขึ้นเรือนนั้น นับว่าจำเลยเข้าไปโดยมีเหตุอันควร แม้ว่าผู้เสียหายและภรรยาไม่อนุญาต ก็เป็นไปตามวิสัยของเรื่องเช่นนี้ที่ต้องปิดบัง ดังนี้ จำเลยจึงไม่มีความผิดฐานบุกรุกตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364ประกอบด้วยมาตรา 365(2)(3) (ตัดสินโดยมติที่ประชุมใหญ่ครั้งที่ 17/2508)

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องจำเลยฐานบุกรุกและพยายามลักทรัพย์ ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364, 365, 335, 80

จำเลยให้การปฏิเสธ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามบทมาตราดังฟ้อง ให้ลงโทษตามมาตรา 364, 365 ซึ่งเป็นบทหนักตามมาตรา 90 ให้จำคุกจำเลยไว้ 1 ปี 6 เดือน

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ยกฟ้อง

โจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า พฤติการณ์ที่ปรากฏตามคำพยานโจทก์ไม่สมเหตุผลที่จะเป็นกรณีลักทรัพย์ พยานโจทก์ไม่มีน้ำหนักและเหตุผลที่จะรับฟัง

ปัญหาต่อไปมีว่า การที่จำเลยเข้าไปในเรือนของนายเชื้อกลางคืนเวลา 1 นาฬิกา โดยนางสาวเล็กบุตรีนายเชื้อนัดให้เข้าไปนั้นจะเป็นการเข้าไปโดยมีเหตุสมควรหรือไม่ ศาลฎีกาได้พิจารณาปัญหานี้โดยที่ประชุมใหญ่แล้ว มีมติว่า นางสาวเล็กรักใคร่กับจำเลยมาก่อนเกิดเหตุ คืนเกิดเหตุนางสาวเล็กนัดให้จำเลยไปหา จำเลยไปเคาะกระดานใต้ถุนบ้านตามที่นัดหมายกัน นางสาวเล็กลงมาพาจำเลยขึ้นเรือนนับว่าจำเลยเข้าไปโดยมีเหตุอันสมควรแม้ว่าบิดามารดานางสาวเล็กไม่ได้อนุญาต ก็เป็นไปตามวิสัยของเรื่องเช่นนี้ต้องปิดบัง จำเลยมิได้ตั้งใจบุกรุกเลย จำเลยจึงยังไม่มีความผิดฐานบุกรุก ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 364 ประกอบด้วยมาตรา 365(2)(3) ดังที่ศาลฎีกาได้พิพากษาเป็นแบบอย่างไว้หลายเรื่อง

พิพากษายืน

Share