คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1345/2526

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 9 เดือน และปรับ 5,000 บาทโทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้ แม้ศาลอุทธรณ์ไม่รอการลงโทษจำคุกให้ การที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษเป็นฎีกาดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ อันเป็นปัญหาข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 219

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯพ.ศ. 2490 มาตรา 7, 8 ทวิ, 72, 72 ทวิ คำสั่งของคณะปฏิวัติการปกครองแผ่นดิน ฉบับที่ 44 ข้อ 3, 6, 7 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 371 ลงโทษฐานมีอาวุธปืน จำคุก 1 ปี และปรับ 6,000 บาท ฐานพกพาอาวุธปืน ลงโทษตามพระราชบัญญัติอาวุธปืนฯ มาตรา 8 ทวิ ซึ่งเป็นบทหนัก จำคุก 6 เดือนและปรับ 4,000 บาท รวมจำคุก 1 ปี 6 เดือน และปรับ 10,000 บาท ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจำคุก 9 เดือน และปรับ 5,000 บาท รอการลงโทษจำคุกไว้มีกำหนด 2 ปี ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ไม่รอการลงโทษจำคุก และไม่ลงโทษปรับ จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษ

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 9 เดือนและปรับ 5,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี แม้ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยไปทันทีโดยไม่รอการลงโทษให้ แต่ศาลอุทธรณ์ยังคงลงโทษจำเลยไม่เกินกำหนดที่ว่ามานี้ และฎีกาของจำเลยที่ขอให้ศาลฎีการอการลงโทษเป็นฎีกาดุลพินิจของศาลอุทธรณ์ อันเป็นข้อเท็จจริง จึงต้องห้ามมิให้ฎีกาตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 219 ศาลฎีกาจึงไม่รับวินิจฉัย”

พิพากษายกฎีกาจำเลย

Share