คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13443/2558

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์จะมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายอันเนื่องมาจากการจัดการเลือกตั้งใหม่ตามฟ้องได้ก็ต่อเมื่อโจทก์ได้มีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 56 วรรคสอง แล้ว ดังนั้น อายุความในการฟ้องให้จำเลยรับผิดในค่าเสียหายดังกล่าวจึงต้องเริ่มนับแต่วันที่โจทก์มีคำสั่งเพิกถอนผลการเลือกตั้งของจำเลยและให้ดำเนินการจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ คือ วันที่ 17 มิถุนายน 2548 เมื่อนับถึงวันฟ้องแล้วยังไม่เกินกำหนด 10 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องและแก้ไขคำฟ้องขอให้บังคับให้จำเลยชำระเงินจำนวน 77,486.18 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 62,958.50 บาท นับถัดจากวันฟ้องจนกว่าจำเลยจะชำระเสร็จแก่โจทก์
จำเลยให้การขอให้ยกฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยชำระเงิน 77,486.18 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี ของต้นเงิน 62,958.50 บาท นับถัดจากวันฟ้อง (ฟ้องวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557) เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่โจทก์ กับให้จำเลยใช้ค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ โดยกำหนดค่าทนายความ 3,000 บาท ค่าใช้จ่ายในการดำเนินคดีให้เป็นพับ
จำเลยอุทธรณ์เฉพาะปัญหาข้อกฎหมายโดยตรงต่อศาลฎีกา โดยได้รับอนุญาตจากศาลชั้นต้นตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 223 ทวิ
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า จำเลยอุทธรณ์ข้อแรกว่า โจทก์ไม่มีอำนาจฟ้องเพราะขณะที่โจทก์ฟ้อง โจทก์ไม่แนบใบแต่งทนายความ เพิ่งมาปรากฏใบแต่งทนายความในภายหลัง คำฟ้องของโจทก์ไม่ชอบด้วยกฎหมายนั้น ศาลฎีกาตรวจสำนวนคดีนี้แล้ว ปรากฏว่าโจทก์แต่งตั้งนายวรชัย พนักงานอัยการจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นทนายความ โดยโจทก์ยื่นใบแต่งทนายความลงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 วันเดียวกับวันฟ้อง และพนักงานรับฟ้องของศาลชั้นต้นประทับตราศาลชั้นต้นลงวันที่วันเดียวกับในใบแต่งทนายความดังกล่าว ขณะฟ้องนายวรชัยจึงเป็นทนายความโจทก์ มีอำนาจว่าความและดำเนินกระบวนพิจารณาใดๆ รวมทั้งการเรียงคำฟ้องแทนโจทก์ได้ตามพระราชบัญญัติองค์กรอัยการและพนักงานอัยการ พ.ศ.2553 มาตรา 14 (3) คำฟ้องของโจทก์จึงชอบด้วยกฎหมาย โจทก์มีอำนาจฟ้องคดีนี้
ส่วนที่จำเลยอุทธรณ์ข้อต่อมาว่า ฟ้องโจทก์ขาดอายุความแล้ว เพราะโจทก์ประกาศผลการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 5 มกราคม 2547 อายุความต้องเริ่มนับแต่วันดังกล่าว โดยต้องฟ้องคดีภายใน 10 ปี คือภายในวันที่ 5 มกราคม 2557 เมื่อโจทก์ฟ้องคดีนี้วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2557 จึงขาดอายุความแล้วนั้น เห็นว่า ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 193/12 บัญญัติว่า “อายุความให้เริ่มนับแต่ขณะที่อาจบังคับตามสิทธิเรียกร้องได้เป็นต้นไป…” และพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2545 มาตรา 55 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ภายในเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศผลการเลือกตั้ง ผู้สมัครต้องยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายในการเลือกตั้งซึ่งรับรองความถูกต้อง พร้อมทั้งหลักฐานที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนตามความจริงต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัด” มาตรา 56 วรรคสอง บัญญัติว่า “ในกรณีที่ผู้สมัครผู้ใดไม่ยื่นบัญชีรายรับและรายจ่ายตามมาตรา 55 วรรคหนึ่ง เป็นผู้ได้รับเลือกตั้ง ให้คณะกรรมการการเลือกตั้งมีคำสั่งเพิกถอนผลการเลือกตั้งของผู้ได้รับเลือกตั้งผู้นั้นและให้ดำเนินการจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่สำหรับตำแหน่งที่ว่าง” และมาตรา 99 วรรคหนึ่ง บัญญัติว่า “ในกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้งมีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ตามมาตรา 56… ให้ผู้ซึ่งกระทำการฝ่าฝืนมาตรา 56…ต้องรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามจำนวนที่คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด ซึ่งต้องไม่เกินค่าใช้จ่ายในการให้มีการเลือกตั้งใหม่” ดังนี้ โจทก์จะมีสิทธิเรียกร้องให้จำเลยรับผิดชดใช้ค่าเสียหายตามฟ้องได้ก็ต่อเมื่อโจทก์มีคำสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ตามมาตรา 56 วรรคสอง แล้ว อายุความจึงต้องเริ่มนับแต่วันที่โจทก์มีคำสั่งเพิกถอนผลการเลือกตั้งของจำเลยและให้ดำเนินการจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่ คือ วันที่ 17 มิถุนายน 2548 เมื่อนับถึงวันฟ้องแล้ว ยังไม่เกินกำหนด 10 ปี คดีโจทก์จึงไม่ขาดอายุความ อุทธรณ์ของจำเลยทุกข้อฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน ค่าฤชาธรรมเนียมชั้นนี้ให้เป็นพับ

Share