คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1341/2521

แหล่งที่มา : เนติบัณฑิตยสภา

ย่อสั้น

คน 6 คนปรึกษากันจะใช้ไขควงงัดประตูรถยนต์เพื่อลักวิทยุติดรถยนต์เก๋งที่จอดอยู่ข้างถนน ตำรวจเข้าจับ เป็นเป็นความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 210

ย่อยาว

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 210, 42 จำคุก 2 ปี ริบของกลาง ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์ฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยข้อกฎหมายว่า “โจทก์มีร้อยตำรวจเอกเกรียงศักดิ์คมจักรพันธ์ และจ่าสิบตำรวจขจร เพชรชุมชน เจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมตัวจำเลยมาเบิกความว่า วันเกิดเหตุเวลา 5 นาฬิกา มีชาย 6 คนยืนจับกลุ่มกันอยู่ที่หน้ารถยนต์เก๋งในตรอกซึ่งแยกจากตรอกพุทธโอสถ สงสัยว่าจะเป็นคนร้าย จ่าสิบตำรวจขจรจึงแอบเข้าไป ได้ยินคนร้ายปรึกษากันจะงัดเอาวิทยุรถยนต์ เจ้าพนักงานตำรวจจึงเข้าจับกุม แต่จับจำเลยได้คนเดียวพร้อมไขควงยาวคืบเศษ 1 อัน เป็นของกลาง เห็นว่าพยานโจทก์ดังกล่าวเบิกความสอดคล้องกัน เชื่อว่าจ่าสิบตำรวจขจรซึ่งแต่งตัวนอกเครื่องแบบได้แอบเข้าไปจนใกล้ โดยจำเลยกับพวกไม่ทันรู้ตัวและรู้เห็นว่าจำเลยกับพวกอีก 5 คนปรึกษากันจะงัดประตูรถยนต์เก๋งที่จอดอยู่ข้างถนน เพื่อจะลักเอาวิทยุติดรถยนต์ ไขควงยาวคืบเศษของกลางที่ค้นได้ที่ตัวจำเลยเป็นเครื่องมือเครื่องใช้งัดและทำอันตรายประตูรถยนต์ได้ เป็นวัตถุพยานประกอบให้รับฟังได้ว่าจำเลยเป็นคนร้ายแน่นอนที่ตำรวจจับพวกของจำเลยไม่ได้เลยนั้นไม่เป็นการพิรุธ เพราะไปด้วยกัน 3 คนเท่านั้น พอร้อยตำรวจเอกเกรียงศักดิ์และสิบตำรวจเอกวิโรจน์วิ่งกรูเข้าไป พวกของจำเลยก็หลบหนีไปหมด จึงจับไม่ทัน คงมีจ่าสิบตำรวจขจรซึ่งอยู่ใกล้คนร้ายจับจำเลยไว้ได้คนเดียว”

พิพากษากลับ บังคับตามศาลชั้นต้น

Share