คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1060/2521

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยปิดกั้นทางภารจำยอม ขอให้เปิดสิ่งปิดกั้นทางภารจำยอมนั้น หาได้ฟ้องขอให้พิพากษาว่าทางพิพาทเป็นทางภารจำยอมและให้จดทะเบียนสิทธิภารจำยอมไม่ จึงไม่จำต้องฟ้องเจ้าของที่ดินและไม่จำต้องเรียกเจ้าของที่ดินมาเป็นจำเลย โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลย และศาลมีอำนาจวินิจฉัยได้ว่าทางพิพาทเป็นทางภารจำยอมหรือไม่ เพราะเกี่ยวกับสิทธิของโจทก์ที่จะใช้ทางพิพาท อันจะมีผลว่าจำเลยไม่มีสิทธิปิดกั้นทางพิพาท

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นเจ้าของที่ดินโฉนดเลขที่ 3937 ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของโฉนดเลขที่ 4804 มีชื่อบุคคลภายนอกเป็นเจ้าของ จำเลยได้ปลูกบ้านอาศัยอยู่ในที่ดินดังกล่าว โจทก์และบุคคลอื่นได้ใช้ที่ดินดังกล่าวเป็นทางผ่านมาเกิน 10 ปีโดยเจตนาจะใช้สิทธิภารจำยอม ต่อมาจำเลยปิดกั้นทางภารจำยอมไม่ให้โจทก์ใช้ทางดังกล่าว ขอให้บังคับให้จำเลยเปิดสิ่งปิดกั้นทางภารจำยอม

จำเลยให้การว่าที่ดินโฉนดเลขที่ 4804 เป็นของมารดาจำเลย โจทก์มีทางสู่ทางสาธารณะทางอื่นสะดวกกว่า ทั้งโจทก์ไม่ได้ใช้ทางเดินโดยสงบและเปิดเผยไม่เป็นทางภารจำยอม

ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยเปิดทางภารจำยอม

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้ใช้ทางพิพาทเป็นทางเดินออกสู่ทางสาธารณะมาเป็นเวลากว่า 10 ปีแล้ว ทางพิพาทจึงตกเป็นทางภารจำยอม และเห็นว่าคดีนี้โจทก์ฟ้องกล่าวหาว่าจำเลยปิดกั้นทางภารจำยอม ขอให้จำเลยเปิดสิ่งปิดกั้นทางภารจำยอม หาได้ฟ้องขอให้พิพากษาว่าทางพิพาทเป็นทางภารจำยอมและให้จดทะเบียนสิทธิภารจำยอมไม่ จึงไม่ต้องฟ้องนางทองล้วนมารดาจำเลยเจ้าของที่ดิน และไม่จำต้องเรียกนางทองล้วนมาเป็นจำเลย โจทก์มีอำนาจฟ้องจำเลย และศาลมีอำนาจวินิจฉัยได้ว่าทางพิพาทเป็นทางภารจำยอมหรือไม่เพราะเกี่ยวกับสิทธิของโจทก์ ที่จะใช้ทางพิพาท อันจะมีผลว่าจำเลยไม่มีสิทธิปิดกั้นทางพิพาท

พิพากษายืน

Share