แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อที่พิพาทจากจำเลย บัดนี้จำเลยกลับเอาที่พิพาทไปขายคนอื่นจึงขอให้ทำลายนิติกรรมซื้อขายนั้นเสียแต่นำสืบว่าโจทก์ช่วยออกเงินให้จำเลยซื้อที่ดินมาจากลูกสะใภ้ แล้วจำเลยแบ่งที่พิพาทให้โจทก์ครอบครองเช่นนี้ เป็นเรื่องนำสืบไม่ตรงกับประเด็นในฟ้อง โจทก์จึงไม่ควรชนะคดี
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า โจทก์ซื้อนาพิพาทเนื้อที่ 3 ไร่ 1 งาน 69 วา ไว้จากจำเลย ครอบครองเป็นเจ้าของตลอดมา บัดนี้จำเลยเอานาพิพาทไปขาย จึงขอให้เพิกถอนนิติกรรมซื้อขาย
จำเลยต่อสู้ว่า นาพิพาทเป็นของจำเลย โดยเป็นส่วนหนึ่งของนาทั้งแปลงจำนวน 7 ไร่ 2 งาน 24 วา ฯลฯ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยเอานาของโจทก์ไปขาย พิพากษาให้โจทก์ชนะคดี
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับ ให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า โจทก์ฟ้องว่าซื้อที่พิพาทจากจำเลย แต่นำสืบว่า โจทก์ช่วยออกเงินบางส่วนให้จำเลยซื้อที่จากนางเลี่ยมแล้วจำเลยแบ่งที่พิพาทให้โจทก์ครอบครอง เช่นนี้ ศาลฎีกาเห็นว่าโจทก์นำสืบไม่ตรงกับประเด็นในฟ้อง โจทก์จึงไม่ควรชนะคดี
จึงพิพากษายืน