คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 134/2490

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ราษฎรทำผิดฐานขัดคำสั่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดในเวลาที่ใช้พระราชบัญญัติที่บัญญัติวิเคราะห์ศัพท์ให้ราษฎรในเขตต์กฎอัยยการศึกเป็นทหาร ต่อมามีพระราชบัญญัติวิเคราะห์ศัพท์ใหม่ ให้ทหารหมายความฉะเพาะผู้อยู่ในอำนาจกฎหมายฝ่ายทหาร ดังนี้ถือว่ากฎหมายใหม่เป็นคุณแก่จำเลยต้องยกฟ้องตามกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา 8
เดิมมีคำสั่งผู้บัญชาการทหารสูงสุดให้แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บลวดหนาม ต่อมามีประกาศกรมบัญชาการทัพใหญ่ให้ยกเลิกคำสั่งนั้น ดังนี้ไม่ถือว่าเป็นการยกเลิกความผิดหรือมีกฎหมายต่างกัน

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ขณะจำเลยทำผิดจำเลยเป็นทหาร ผู้บัญชาการทหารสูงสุดสั่งให้แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บลวดหนาม จำเลยมีลวดหนามแต่ไม่แจ้งปริมาณและสถานที่เก็บ ขอให้ลงโทษตามกฎหมายลักษณะอาญาทหาร ร.ศ. ๑๓๐ ม. ๔ และ ๓๐ (๒)
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นงดสืบพะยานแล้ววินิจฉัยว่า ขณะทำผิดจำเลยเป็นทหาร แต่ต่อมามีกฎหมายยกเลิกวิเคราะห์ศัพท์นั้น จำเลยไม่เป็นทหารแล้ว จึงต้องใช้กฎหมายใหม่ จึงพิพากษาให้ยกฟ้องของโจทก์
โจทก์อุทธรณ์, ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา, ศาลฎีกาตัดสินว่า ตามที่ศาลอุทธรณ์กล่าวว่าต่อมามีประกาศกรมบัญชาการทัพใหญ่ให้ยกเลิกคำสั่งผู้บัญชาการทหารสูงสุด จึงเป็นการยกเลิกความผิดนั้น ศาลฎีกาไม่เห็นด้วย แต่ศาลฎีกาเห็นว่า เดิมมี พ.ร.บ. ให้วิเคราะห์ศัพท์คำว่า ทหารหมายถึงบุคคลที่อยู่ในเขตต์ใช้กฎอัยยการศึกด้วย ต่อมามี พ.ร.บ. ๒๔๘๗ ยกเลิกวิเคราะห์ศัพท์นั้น และบัญญัติใหม่ ให้หมายถึงฉะเพาะผู้อยู่ในอำนาจกฎหมายฝ่ายทหาร เป็นการยกเลิกหลักการในกฎหมายเดิมที่ให้ราษฎรสามัญเป็นทหาร จึงต้องใช้กฎหมายที่เป็นคุณแก่จำเลย รูปคดีต้องด้วยกฎหมายลักษณะอาญา มาตรา ๘ จึงพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share