คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1338/2532

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้ปูนซีเมนต์ที่จำเลยทำให้เสียหายจะอยู่ในบริเวณโรงเรียนซึ่ง อยู่ในความครอบครองดูแลของ ส. ครูใหญ่ แต่ปูนซีเมนต์ดังกล่าวเป็นของ ล. ซึ่งรับเหมาก่อสร้างให้โรงเรียน และมีคนงานของ ล. พักอาศัยอยู่ในบริเวณโรงเรียนด้วย แสดงว่า ล. มอบปูนซีเมนต์ดังกล่าวให้อยู่ในความครอบครองดูแลของคนงานของตน ส. จึงมิใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีแก่จำเลยในความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
ความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์เป็นความผิดต่อส่วนตัว เมื่อผู้เสียหายไม่ได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี พนักงานสอบสวนจึงไม่มีอำนาจสอบสวน การสอบสวนไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 121 วรรคสอง โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง
การที่จำเลยเดินเข้าไปในบริเวณโรงเรียนในเวลากลางคืนจนไปถึงอาคาร 2 ซึ่งไม่ใช่ทางผ่านและฉีกถุงปูนซีเมนต์ที่เก็บไว้หน้าอาคาร 2 แสดงว่าจำเลยมีเจตนาเข้าไปรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของ ส. ครูใหญ่ของโรงเรียนดังกล่าวโดยปกติสุขจำเลยจึงมีความผิดฐานบุกรุก

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๘๐, ๒๒๔, ๒๒๕ (๑) (๘), ๓๖๒, ๓๖๕, ๓๕๘, ๙๐, ๙๑
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๘, ๓๖๔, ๓๖๕ (๓) ลงโทษฐานบุกรุกซึ่งเป็นบทหนักจำคุก ๑ ปี ยกฟ้องข้อหาพยายามลักทรัพย์
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ยกฟ้องโจทก์สำหรับความผิดฐานบุกรุกและทำให้เสียทรัพย์ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงฟังเป็นยุติว่า ขณะเกิดเหตุโรงเรียนบ้านทุ่งกระจูดจ้างเหมานางเล็กก่อสร้างส้วม ปูนซีเมนต์ที่ได้รับความเสียหายเป็นของนางเล็ก และคนงานของนางเล็กพักอาศัยอยู่ในโรงเรียนด้วย ดังนี้ นางเล็กจึงเป็นผู้เสียหายโดยตรง แม้ปูนซีเมนต์จะอยู่ในบริเวณโรงเรียนซึ่งอยู่ในความครอบครองดูแลของนางสมร ครูใหญ่ เมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า นางเล็กมีคนงานพักอาศัยอยู่ในบริเวณโรงเรียนด้วย แสดงในเห็นว่านางเล็กมอบปูนซีเมนต์ดังกล่าวให้อยู่ในความครอบครองดูแลของคนงานของนางเล็ก หาใช่นางสมรไม่ นางสมรจึงไม่ใช่ผู้เสียหาย ไม่มีอำนาจร้องทุกข์ให้เจ้าพนักงานดำเนินคดีแก่จำเลยได้และคดีนี้เป็นความผิดส่วนตัว เมื่อผู้เสียหายไม่ได้ร้องทุกข์ให้ดำเนินคดี พนักงานสอบสวนจึงไม่มีอำนาจสอบสวน การสอบสวนในข้อหาความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ จึงไม่ชอบตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๒๑ วรรคสอง โจทก์จึงไม่มีอำนาจฟ้อง แล้ววินิจฉัยว่าพยานหลักฐานโจทก์จึงมีน้ำหนักมั่นคง พยานหลักฐานจำเลยไม่อาจหักล้างได้ ฟังได้ว่าจำเลยเข้าไปในโรงเรียนบ้านทุ่งกระจูดและไปฉีกถุงปูนซีเมนต์ซึ่งเก็บไว้ที่หน้าอาคาร ๒ พฤติการณ์ของจำเลยดังกล่าวถึงแม้จำเลยจะมีสิทธิเดินผ่านโรงเรียนได้ แต่การที่จำเลยเดินเข้าไปในบริเวณโรงเรียนในเวลากลางคืนจนไปถึงอาคาร ๒ ซึ่งไม่ใช่ทางผ่านและฉีกถุงปูนซีเมนต์ที่เก็บไว้หน้าอาคาร ๒ แสดงให้เห็นว่าจำเลยมีเจตนาเข้าไปรบกวนการครอบครองอสังหาริมทรัพย์ของนางสมรโดยปกติสุข จำเลยจึงต้องมีความผิดฐานบุกรุก
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๖๕ (๒) ประกอบด้วยมาตรา ๓๖๒ จำคุก ๖ เดือน ปรับ ๒,๐๐๐ บาท โจทก์จำคุกให้รอไว้มีกำหนด ๑ ปี นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share