แหล่งที่มา : สำนักงาน ส่งเสริมงานตุลาการ
ย่อสั้น
จำเลยเกิดจากบิดามารดาที่มิได้จดทะเบียนสมรสกันจึงไม่ใช่บุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของบิดาเมื่อปรากฏว่าจำเลยเกิดในราชอาณาจักรไทยโดยมารดามีสัญชาติไทยย่อมได้สัญชาติไทยโดยการเกิดตามมาตรา7แห่งพ.ร.บ.สัญชาติการที่บิดาจำเลยเป็นคนญวนอพยพไม่ทำให้จำเลยเป็นคนญวนอพยพที่จะถูกถอนสัญชาติไทยตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่337และไม่ต้องทำบัตรประจำตัวคนญวนอพยพตามประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัด.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยเป็นคนญวนอพยพทราบคำสั่งของผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมที่สั่งให้เปลี่ยนบัตรและถ่ายรูปประจำตัวใหม่ แล้วขัดขืนไม่ปฏิบัติตาม โดยไม่มีเหตุและข้อแก้ตัวอันสมควร ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 368
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 368 จำคุก 5 วัน เปลี่ยนโทษจำคุกเป็นกักขัง
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษากลับให้ยกฟ้อง
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า “ข้อเท็จจริงที่โจทก์จำเลยมิได้โต้เถียงกันฟังยุติได้ว่า จำเลยมีบิดาเป็นคนญวนอพยพ มีมารดาเป็นคนไทย ซึ่งบิดามารดามิได้จดทะเบียนสมรสกัน จำเลยเกิดที่ตำบลบ้านแพงอำเภอบ้านแพง จังหวัดนครพนม เมื่อเกิดมาแล้วกำนันประจำตำบลดังกล่าวได้ออกสูติบัตรให้ แต่จำเลยก็ยังคงมีรายชื่ออยู่กับทางราชการเป็นคนณวนอพยพ ครั้นวันที่ 25 พฤศจิกายน 2524ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ได้ออกประกาศให้คนณวนอพยพที่อยู่ในเขตอำเภอบ้านแพง ทำบัตรประจำตัวคนญวนอพยพภายในระหว่างวันที่ 1ถึงวันที่ 10 เมษายน 2525 จำเลยซึ่งในขณะนั้นอายุเกินกว่า 12ปีแล้ว และไม่เคยทำบัตรประจำตัวคนญวนอพยพมาก่อน ได้ทราบประกาศนั้นแล้ว ไม่ไปทำบัตรประจำตัวภายในกำหนด จึงถูกจับกุมในข้อหาคดีนี้ชั้นสอบสวนจำเลยให้การปฏิเสธ มีปัญหาว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามฟ้องโจทก์หรือไม่ เห็นว่าจำเลยเกิดจากบิดามารดาที่มิได้จดทะเบียนสมรสกัน จำเลยจึงมิใช่บุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของบิดาเมื่อปรากฎว่าจำเลยเกิดในราชอาณาจักรไทย โดยมารดาที่มีสัญชาติไทยมิใช่ผู้ที่อยู่ภายใต้บังคับบทบัญญัติมาตรา 8 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติ พ.ศ. 2508 และประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 337 ลงวันที่13 ธันวาคม 2515 ที่จะถูกถอนสัญชาติไทย จำเลยย่อมได้สัญชาติไทยโดยการเกิดตามมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติสัญชาติดังกล่าว จึงมิใช่คนญวนอพยพที่จะต้องทำบัตรประจำตัวคนญวนอพยพตามประกาศของผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม ลงวันที่ 25 พฤศจิกายน 2524 เรื่องกำหนดให้คนญวนอพยพที่อยู่ในเขตอำเภอบ้านแพง เปลี่ยนบัตรและถ่ายรูปทำบัตรประจำตัวใหม่การกระทำของจำเลยไม่เป็นความผิดตามฟ้องที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาฟ้องโจทก์มา ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ฟังไม่ขึ้น
พิพากษายืน”.