คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1337/2495

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเตะผู้ตายสองทีก่อนผู้ตายชักมีดออกจะต่อสู้ จำเลยชักมีดออกบ้าง ต่างเดินเข้าหากันและต่างใช้มีดแทงต่อสู้กัน จำเลยแทงผู้ตายถูกใต้รักแร้ 1 ที ผู้ตายวิ่งหนีไปล้มลงถึงแก่ความตาย ดังนี้ การกระทำของจำเลยไม่ใช่เป็นการป้องกันตัว แต่จำเลยกับผู้ตายต่างมีมีดเข้าต่อสู้แทงทำร้ายกัน ผู้ตายถูกแทงแต่เพียง 1 ที ผู้ตายวิ่งหนี จำเลยก็ไม่ได้ติดตามไปทำร้ายซ้ำเติมอีก วินิจฉัยว่าจำเลยมีผิดเพียงฐานฆ่าคนตายโดยไม่เจตนาตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา 251

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องหาว่า จำเลยสมคบกันฆ่านายเหยงตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษ
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำเลยที่ ๑ ตาม ก.ม.ลักษณะอาญามาตรา ๒๐๙ จำคุก ๑๕ ปี ยกฟ้อง จำเลยที่ ๒ – ๓
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ว่า จำเลยที่ ๑ ผิดตามมาตรา ๒๕๑ จำคุก ๗ ปี นอกนั้นยืน
โจทก์กับจำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาปรึกษาคดีแล้ว ได้ความว่าจำเลยเตะผู้ตายสองทีก่อน ผู้ตายชักมีดออกจะต่อสู้ นายสอนจำเลยชักมีดออกบ้าง ต่างเดินเข้าหากัน และต่างใช้มีดแทงต่อสู้กัน จำเลยที่ ๑ ถูกแทงที่แขนถากไป จำเลยที่ ๑ แทงผู้ตายถูกใต้รักแร้ขวา ๑ ที ไม่ใช่เป็นการป้องกันตัว จำเลยที่ ๑ และผู้ตายต่างมีมีด เข้าต่อสู้ทำร้ายกัน จะฟังว่าจำเลยที่ ๑ มีเจตนาฆ่าผู้ตายยังไม่ถนัด ศาลอุทธรณ์ฟังว่าเป็นความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนาชอบแล้ว
จึงพิพากษายืน

Share