คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1330/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

แม้กฎหมายจะสันนิษฐานไว้ก่อนว่า สมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเป็นพยานหลักฐานอันถูกต้อง ก็เป็นข้อสันนิษฐานไม่เด็ดขาด ซึ่งอาจหักล้างโดยพยานหลักฐานอื่นได้ ฉะนั้น เมื่อหลักฐานเอกสารของบริษัทโจทก์ที่ทำขึ้นเองผิดพลาดก็ย่อมไม่เป็นหลักฐานที่จะรับฟังเป็นความจริงได้
ภาษีสำหรับปี พ.ศ.2494 ถึงกำหนดต้องชำระในปี พ.ศ.2495 ถัดไปนั้น โดยที่อายุความย่อมเริ่มนับตั้งแต่วันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้ ฉะนั้น กรณีนี้อายุความจึงมิได้ตั้งต้นนับตั้งแต่ พ.ศ.2494

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนคำสั่งประเมินภาษีเงินได้ของจำเลยที่ ๑ กับคำวินิจฉัยของจำเลยที่ ๒,๓,๔ และพิพากษาว่าโจทก์ไม่ต้องเสียภาษีเงินได้รวม ๘๔๙,๓๐๒.๗๗ บาท
จำเลยทั้งสี่ให้การปฏิเสธต่อสู้ว่าการประเมินของจำเลยถูกต้องแล้ว
ศาลชั้นต้นเห็นว่า สมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของโจทก์ไม่ถูกต้อง ไม่เชื่อว่าได้มีการโอนหุ้นดังโจทก์ฟ้อง คดีไม่ขาดอายุความ ไม่มีเหตุที่โจทก์จะอ้างเพื่อไม่ชำระภาษี พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า แม้กฎหมายจะสันนิษฐานไว้ก่อนว่าสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นเป็นพยานหลักฐานอันถูกต้อง ก็เป็นข้อสันนิษฐานไม่เด็ดขาด ซึ่งอาจหักล้างโดยพยานหลักฐานอื่นได้ ศาลฎีกาได้ตรวจดูสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของดจทก์แล้ว เห็นว่ามีข้อผิดพลาดคลาดเคลื่อน จะให้ฟังว่าข้อสันนิษฐานนั้นถูกต้องกับความจริงก็ย่อมเป็นไปไม่ได้อยู่เอง เพราะนายประสิทธิ์มีหุ้น ๔,๒๒๐ หุ้น ตั้งแต่ก่อนนางบุญหลีโอนเสียแล้ว ก็เมื่อหลักฐานเอกสารที่โจทก์ทำเองแสดงอยู่หลายฉบับว่านางบุญหลียังเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ ซ้ำยังได้รับเลือกเป็นกรรมการบริษัทโจทก์ต่อมาอีก โจทก์จะอ้างว่าเอกสารเหล่านั้น โจทก์ทำผิดพลาด แล้วขอให้เชื่อฟังสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นที่มีข้อผิดพลาดอยู่ในตัว ประกอบด้วยคำพยานโจทก์ด้วยนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า ยังไม่เป็นหลักฐานที่จะรับฟังเป็นความจริงตามข้ออ้างของโจทก์ได้ ข้อเท็จจริงต้องฟังว่านางบุญหลียังเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ตามเดิม โจทก์จึงต้องเสียภาษีตามที่จำเลยประเมินเรียกเก็บมา
ที่โจทก์อ้างว่าภาษีรายนี้เป็นภาษีสำหรับพ.ศ.๒๔๙๔ เจ้าพนักงานมาประเมินเรียกเก็บเมื่อ พ.ศ.๒๕๐๔ จึงขาดอายุความเพระาเกิน ๑๐ ปีนั้นศาลฎีกาเห็นว่า สำหรับ พ.ศ.๒๔๙๔ ถึงกำหนดต้องชำระใน พ..๒๔๙๕ ถัดไป อายุความย่อมเริ่มนับตั้งแต่วันที่อาจบังคับสิทธิเรียกร้องได้ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๑๖๙ มิได้ตั้งต้นนับตังแต่ พ.ศ.๒๔๙๔ ดังที่โจทก์ฎีกา ศาลอุทธรณ์พิพากษาชอบแล้ว
พิพากษายืน ยกฎีกาโจทก์

Share