แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
กฎกระทรวงสาธารณสุขซึ่งออกตามพระราชบัญญัติยาเสพย์ติดให้โทษๆ ระบุให้ผู้ปรารถนานำยาซึ่งได้รับยกเว้นเข้ามาในราชอาณาจักร ให้ยื่นคำขออนุญาต ถ้าปลัดกระทรวงสาธารณสุขเห็นสมควร ก็ให้ออกใบอนุญาต นั้น ย่อมเห็นได้ว่า แม้จะเป็นยายกเว้น ก็ยังบังคับให้ผู้นำเข้าต้องขออนุญาตเสียก่อน หาใช่นำเข้ามาโดยไม่จำต้องขออนุญาตไม่ และย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่าต้องได้รับอนุญาตก่อนนำเข้า ไม่ใช่นำเข้าแล้วไปขออนุญาต ฉะนั้น เมื่อจำเลยมิได้ขออนุญาตก่อนนำเข้าแต่นำเข้าแล้วจึงไปขออนุญาต จึงย่อมไม่เป็นการลบล้างความผิด
ย่อยาว
โจทก์ฟ้อง่า จำเลยได้บังอาจสมคบนำยาอะโปร์ขอคืน ๑๐๐ หีบ ราคา ๕๗๔.๔๐ บาท เข้ามาในราชอาณาจักร โดยไม่ยื่นคำขออนุญาตนำเข้าตามกฎหมายและฝ่าฝืนพระราชบัญญัติศุลกากร
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธว่าไม่ได้กระทำผิดตามฟ้องและฟ้องโจทก์เคลือบคลุม
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่าจำเลยที่ ๑ ไม่ได้สั่งยาเข้ามาตามฟ้อง ยกฟ้องจำเลยที่ ๒ มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพย์ติดให้โทษ พ.ศ. ๒๔๖๕ มาตรา ๖ ฉบับที่ ๒ (มาตรา ๔) กฎเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย แต่ให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. ๒๔๖๙ มาตรา ๒๗ และพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ ๑๑) มาตรา ๓ ซึ่งเป็นบทที่มีโทษหนัก ปรับจำเลยเป็น+ ๔ เท่าราคาของซึ่งได้รวมค่าอากรเข้าด้วยเป็นเงิน ๒,๘๗๒ บาท ของกลางริบ
จำเลยที่ ๒ อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า ยาอะโปร์มอฟีนเป็นยาที่ได้รับการยกเว้นตามมาตรา ๔-๕ พระราชบัญญัติยาเสพย์ติดให้โทษ พ.ศ. ๒๔๖๕ แต่การนำยาเช่นว่านี้เข้ามาในราชอาณาจักรจะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎกระทรวงสาธารณสุขเสียก่อน ซึ่งย่อมเห็นได้ว่า แม้จะเป็นยายกเว้น ก็ยังบังคับให้ผู้นำเข้าราชอาณาจักรต้องขออนุญาตเสียก่อน หาใช่จะนำเข้ามาได้โดยไม่จำต้องขออนุญาต ทั้งนี้ เมื่อได้พิเคราะห์ข้อความในมาตรา ๕ แห่งพระราชบัญญัติยาเสพย์ติดให้โทษ พงศ. ๒๔๖๕ ประกอบ ยิ่งเห็นเจตนารมย์ของกฎหมายเรื่องนี้ได้ดี
เมื่อมีกฎกระทรวงบังคับให้ผู้นำเข้าต้องขออนุญาตปลัดกระทรวงสาธารณสุข ก็ย่อมเป็นที่เข้าใจได้ว่าต้องได้รับอนุญาตก่อนนำเข้า ไม่ใช่นำเข้าแล้วไปขออนุญาตดังที่จำเลยพยายามจะเข้าใจเป็นเช่นนั้น เมื่อข้อเท็จจริงฟังต้องกันมาเป็นที่สุดแล้วว่า จำเลยที่ ๒ มิได้ขออนุญาตก่อนนำเข้า แต่นำมาแล้วจึงไปขออนุญาต ย่อมไม่ลบล้างความผิด
ข้อที่จำเลยที่ ๒ ฎีกาว่า จำเลยไม่ควรมีความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร นั้น ตามฟ้องของโจทก์ โจทก์ถือว่าจำเลยกระทำผิดเพราะไม่ได้ขออนุญาตเสียก่อนตามข้อเท็จจริงที่ปรากฎในรายงานพิจารณาของศาล ลงวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๐๑ ก็ทำนองเดียวกัน หามีข้อความตอนใดแสดงว่าจำเลยได้กระทำการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติศุลกากรไม่ ความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพย์ติดให้โทษและพระราชบัญญัติศุลกากรแยกกันได้อยู่ คดีนี้จะมีข้อเาอผิดแก่จำเลยได้ก็เฉพาะข้อที่จำเลยสั่งยานี้เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ขออนุญาตต่อกระทรวงสาธารณสุขเสียก่อนเท่านั้น จำเลยหามีความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากรไม่
พิพากษาแก้ว่าจำเลยที่ ๒ มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพย์ติดให้โทษ พ.ศ. ๒๔๖๕ มาตรา ๖ พระราชบัญญัติยาเสพย์ติดให้โทษ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๗๙ มาตร ๙ กฎเสนาบดีกระทรวงมหาดไทย ให้ลงโทษจำเลยตามพระราชบัญญัติยาเสพย์ติดให้โทษ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๔๗๙ มาตรา ๙ ปรับจำเลยที่ ๒ สี่เท่าของราคายาของกลางเป็นเงิน ๒,๒๙๗.๖๐ บาท ของกลางริบ