คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 133/2502

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

โรงฆ่าสัตว์ของเทศบาล ซึ่งผู้ได้รับอนุญาติให้ฆ่าสุกรจำหน่ายต้องนำสุกรไปฆ่าตาม พ.ร.บ. อากรฆ่าสัตว์ และสถานที่ซึ่งผู้นำสุกรไปฆ่า นำเอาเนื้อสุกรไปวางนอกโรงฆ่าสัตว์นั้น ไม่ใช่สถานการค้าของผู้นำสุกรไปฆ่าตามที่กฎหมายบังคับที่จะต้องประเมินเสียภาษีตามประมวลรัษฎากร มาตรา 78, 79.

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า ได้รับอนุญาตให้ฆ่าสุกรจำหน่าย โดยต้องนำสุกรไปฆ่าในโรงฆ่าสัตว์ของเทศบาลเบตง ตามเทศบัญญัติฯ แล้วนำเนื้อสุกรมาตั้งนอกโรงฆ่าสัตว์เพื่อลูกค้ามารับไปจำหน่าย กรณีเช่นนี้เรียกไม่ได้ว่าจำหน่ายในสถานการค้าตามมาตรา ๗๘ แห่งประมวลรัษฎากร โจทก์ไม่เสียค่าเช่าที่ดินที่วางขาย จึงไม่มีค่ารายปี ไม่ต้องเสียภาษีการค้าตามมาตรา ๗๙ จำเลยได้ประเมินค่ารายปีโรงฆ่าสัตว์เทศบาลตำบลเบตงปีละ ๖๐๐ บาท รวม ๓ ปี เป็นเงิน ๗,๑๑๗ บาท ๓ สตางค์ ขอให้ศาลพิพากษาว่า พื้นดินริมถนนหลวงที่โจทก์วางเนื้อสุกรและโรงฆ่าสัตว์ของเทศบาลไม่ใช่สถานการค้าตาม มาตรา ๗๘ แห่งประมวลรัษฎากร และให้จำเลยที่ ๒ งดเก็บภาษี
จำเลยทั้งสองต่อสู้ว่า จำเลยถือว่าโจทก์เป็นผู้ประกอบการค้าประเภท “การขายของ” (ขายเนื้อสุกรชำแหละ) ตามบัญชีอัตราภาษีการค้าของ ๒ และโรงฆ่าสัตว์ของเทศบาลซึ่งโจทก์ก็ใช้เป็นสถานที่ฆ่าสุกร เป็นสถานการค้าตามความหมายของคำว่า “สถานการค้า” ในมาตรา ๗๘ ประมวลรัษฎากร บริเวณที่วางขายก็เป็นสถานการค้าด้วย ฯลฯ
ศาลชั้นต้น เห็นว่าโจทก์ต้องเสียภาษีตามประมวลรัษฎากร มาตรา ๗๙ พิพากษายก ฟ้องโจทก์ และศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า องค์ประกอบอันจะทำให้โจทก์มีหน้าที่เสียภาษีการค้าตามกฎหมายนั้นอยู่ที่ว่า โจทก์มีสถานการค้าหรือไม่ กับมีค่ารายปีตั้งแต่ ๑๒๐ บาท ขึ้นไปหรือไม่ เรื่องนี้มี พ.ร.บ. อากรการฆ่าสัตว์ พ.ศ. ๒๔๘๘ มาตรา ๖ ซึ่งได้แก้ไขโดย พ.ร.บ. อากรการฆ่าสัตว์ พ.ศ. ๒๔๙๖ มาตรา ๓ บัญญัติว่า ผู้ได้รับอนุญาตให้ฆ่าสัตว์จะต้องฆ่าในโรงฆ่าสัตว์ และโรงฆ่าสัตว์มีความหมายตาม พ.ร.บ. อากรการฆ่าสัตว์ พ.ศ. ๒๔๘๘มาตรา ๔ ว่า คือสถานที่ฆ่าสัตว์ที่รัฐบาลหรือเทศบาลจัดตั้งขึ้น สำหรับคดีนี้ก็คือโรงฆ่าสัตว์ของเทศบาลตำบลเบตงที่รับกันนั้นเอง จึงเห็นว่าโรงฆ่าสัตว์ดังกล่าวเป็นสถานสาธารณะสำหรับผู้ได้รับอนุญาตฆ่าสัตว์ที่ต้องนำสัตว์ไปฆ่า โจทก์หามีเอกสิทธิใด ๆ เป็นของตนโดยเฉพาะไม่ เพราะฉะนั้น จะถือว่าโรงฆ่าสัตว์เป็นสถานการค้าในลักษณะผลิตสินค้าก็ตาม แต่ก็หาใช่โจทก์เป็นผู้มีโรงฆ่าสัตว์นี้ไม่ เทศบาลตำบลเบตงต่างหากเป็นผู้มีไว้ให้บรรดาผู้รับอนุญาตฆ่าสัตว์นำสัตว์มาฆ่าตามกฎหมาย แล้วจะเกณฑ์ให้เป็นสถานการค้าของผู้นำสัตว์มาฆ่าอย่างไรกัน และจะประเมินค่ารายปีให้ต้องด้วยมาตรา ๗๘ ประมวลรัษฎากรได้อย่างไรด้วย
ส่วนการวางสุกรบนลังตั้งให้ลูกค้ารับที่พื้นดินข้างถนนหลวง จะเห็นได้จากความหมายของสถานการค้าในมาตรา ๗๘ นั้นเองว่า แม้แต่การใช้รถหรือเรือซึ่งไม่ต้องจดทะเบียนตามกฎหมายว่าด้วยการนั้น และยานพาหนะอื่นซึ่งเคลื่อนที่ด้วยกำลังคนหรือสัตว์เป็นที่ผลิตหรือเก็บสินค้าตามมาตรา ๗๘ ประมวลรัษฎากร ก็ยังไม่ถือเป็นสถานการค้า การวางสุกรเพื่อลูกค้ารับไปที่พื้นดินดังกล่าว มีลักษณะอย่างเดียวกันกับการเก็บสินค้า ่จึงไม่เป็นสถานการค้า อนึ่งแม้การประกอบหรือดำเนินการค้าในแผงลอยเฉพาะอาหารหรือของสด ประมวลรัษฎากรมาตรา ๘๔ ทวิ ยังกำหนดให้เสียภาษีเพียงกึ่งอัตรา ยิ่งมองเห็นได้ชัดว่ากฎหมายไม่ประสงค์จะเก็บภาษีการวางสุกรที่พื้นดินดังกล่าว
พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ ให้งดเก็บภาษีการค้าแก่โจทก์ตามฟ้อง ฯลฯ.

Share