แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยเป็นพนักงานป่าไม้ บอกให้รถยนต์ซึ่งบันทุกไม้ผิดกฎหมายหยุด รถไม่หยุด จำเลยจึงยิงยางที่ล้อรถเพื่อให้รถหยุดจะได้จับคนและไม้ผิดกฎหมายตามอำนาจโดยใช้วิธีเท่าที่เหมาะแก่พฤติการณ์ แห่งเรื่องในการจับตาม ป.วิ.อ. มาตรา 83 แล้ว การกระทำของจำเลยไม่เป็นผิดฐานทำให้เสียทรัพย์
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยสมคบกันยิงยางรถยนต์โจทก์ ๕ เส้น ราคา ๗, ๕๐๐ บาท ซึ่งใช้กับรถยนต์บันทุก เสียหายใช้การไม่ได้ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๘, ๓๕๙ (๓) , ๘๓
จำเลยปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นฟังว่า จำเลยยิงยางรถยนต์เพื่อทำการจับคุมผู้ทำผิด พ.ร.บ. ป่าไม้ เพราะเรียกให้รถหยุดก็ไม่หยุดให้ตรวจตามหน้าที่ของจำเลยที่มีอยู่ จำเลยจึงยิงยางรถโดยมิได้มีเจตนาที่จะแกล้งยิงให้โจทก์เสียหาย พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า การที่จำเลยยิงยางรถล้อหน้า ๒ ล้อ ของโจทก์อีก เป็นการใช้อำนาจเกินสมควรแก่พฤติการณ์ เพื่อป้องกันมิให้ผู้กระทำผิดหลบหนี เพราะเพียงแต่ยิงยางหลังแตก ๓ เส้น ก็ไม่มีทางไป น่าเชื่อว่าจำเลยได้กระทำไปเพราะความโกรธที่รถยนต์ของโจทก์ไม่ยอมหยุดให้จับแต่โดยดี กลับหักเข้าทางล้อจะชนจำเลยที่ ๑ เสียอีก จำเลยต้องติดตามมาด้วยความลำบากยากแค้น จึงแกล้งยิงยางล้อหน้าเสียอีก การกระทำของจำเลยตอนนี้เป็นความผิดฐานทำให้เสียทรัพย์ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๕๘ ให้ลงโทษปรับจำเลยคนละ ๒๐๐ บาท ไม่ชำระค่าปรับ จัดการตาม มาตรา ๒๙
จำเลยทั้งสองฎีกา
ศาลฎีกาเห็นว่า การที่จำเลยซึ่งเป็นพนักงานป่าไม้ ยิงยางรถยนต์โจทก์ก็เพื่อไม่ให้หนีและเพื่อจับไม้เถื่อนของกลางนั้น เป็นการใช้วิธีที่เหมาะแก่พฤติการณ์ตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๘๓ ยังไม่มีความผิดทางอาญา
พิพากษากลับศาลอุทธรณ์ โดยยืนตามศาลชั้นต้น