แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
งานทำความสะอาดร้านตัดผมและเก็บเงินจากลูกค้าที่ ล.ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะลูกจ้างนั้น เป็นงานเกี่ยวกับร้านตัดผมที่จำเลยประกอบกิจการอยู่ โดยเฉพาะหน้าที่เก็บเงินจากลูกค้าที่มาตัดผม ย่อมเห็นได้ว่าไม่เกี่ยวกับงานบ้าน กรณีถือไม่ได้ว่า ล. เป็นลูกจ้างซึ่งทำงานเกี่ยวกับงานบ้าน ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ล. จึงมีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลา
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า นาง ล.เป็นลูกจ้างประจำของจำเลยรับจ้างทำความสะอาดและเก็บเงินจากผู้มาตัดผมในร้านตัดผมของจำเลย ทำงานปกติวันละ 9 ชั่วโมง หยุดงานวันพุธทุกสัปดาห์ ได้รับค่าจ้างเดือนละ 600 บาท หรือชั่วโมงละ 2.22 บาท นาง ล.ทำงานล่วงเวลาวันละ 4 ชั่วโมงทุกวันตลอดเวลาที่ทำงานเป็นเวลา 4 ปี ซึ่งตามกฎหมายจำเลยต้องจ่ายเงินค่าล่วงเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งเท่าครึ่งของอัตราค่าจ้างต่อชั่วโมง แต่จำเลยไม่จ่ายเงินล่วงเวลาให้ เป็นการฝ่าฝืน และไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของกระทรวงมหาดไทยเกี่ยวกับการคุ้มครองแรงงาน ฯลฯ ขอให้ลงโทษตามประกาศของคณะปฏิวัติฉบับที่ 103 ลงวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2515ข้อ 2(4) ข้อ 8 ประกาศกระทรวงมหาดไทยเรื่องการคุ้มครองแรงงาน ลงวันที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2515 ข้อ 3(4), ข้อ 34
จำเลยให้การว่า จำเลยได้จ่ายเงินค่าล่วงเวลาให้พร้อมกับจ่ายเงินเดือนไม่เคยติดค้าง
ศาลชั้นต้นวินิจฉัยว่า นาง ล. เป็นลูกจ้างทำงานบ้านของจำเลย ไม่ใช่ลูกจ้างตามความหมายของคำว่าลูกจ้างตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน ไม่มีสิทธิรับเงินค่าล่วงเวลา พิพากษายกฟ้อง
โจทก์อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่า ลักษณะของงานที่นาง ล.ทำมิใช่งานเกี่ยวกับงานบ้าน นาง ล.มีสิทธิได้รับเงินค่าล่วงเวลา พิพากษายกคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้ศาลชั้นต้นพิพากษาใหม่ตามรูปคดี
จำเลยฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า งานทำความสะอาดร้านตัดผมและเก็บเงินจากที่ลูกค้าที่ นาง ล.ปฏิบัติหน้าที่ในฐานะลูกจ้างนั้น เป็นงานเกี่ยวกับร้านตัดผมที่จำเลยประกอบกิจการอยู่ โดยเฉพาะหน้าที่เก็บเงินจากลูกค้าที่มาตัดผม ย่อมเห็นได้ว่าไม่เกี่ยวกับงานบ้าน กรณีถือไม่ได้ว่านาง ล.เป็นลูกจ้างซึ่งทำงานเกี่ยวกับงานบ้านตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่องการคุ้มครองแรงงาน นาง ล.จึงมีสิทธิได้รับค่าล่วงเวลาดังที่ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยมา
พิพากษายืน