คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13193/2556

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ความผิดฐานทำวัตถุระเบิดและฐานมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองเป็นความผิดต่อ พ.ร.บ.อาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 38 และมีบทลงโทษอยู่ในมาตรา 78 ด้วยกัน เมื่อวัตถุระเบิดที่จำเลยทำกับวัตถุระเบิดที่ครอบครองเป็นระเบิดลูกเดียวกัน การกระทำของจำเลยจึงเป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทแต่ละบทมีอัตราโทษเท่ากันตาม ป.อ. มาตรา 90
ปัญหาว่าการกระทำของจำเลยเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบทหรือไม่ เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยที่ 1 ไม่ได้อุทธรณ์ฎีกา ศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องตาม ป.วิ.อ. มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสามตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 4, 7, 8, 15, 66, 91, 102 พระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 4, 38, 74 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 32, 33, 83, 91 ริบของกลางทั้งหมด ยกเว้นธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อคืนแก่เจ้าของ
จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพเฉพาะข้อหาเสพเมทแอมเฟตามีน ส่วนข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสามมีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 57, 97 (ที่ถูก มาตรา 91) และจำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 38, 74 การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันเรียงกระทงลงโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 4 ปี ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 6 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 และที่ 3 มีกำหนด 6 เดือน และปรับคนละ 10,000 บาท ฐานทำวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปี ฐานมีวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 1 ปี ฐานเสพเมทแอมเฟตามีน จำเลยทั้งสามให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้จำเลยทั้งสามตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คนละกึ่งหนึ่ง ส่วนความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีน ฐานทำวัตถุระเบิดและมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครอง จำเลยที่ 1 ให้การรับสารภาพในชั้นจับกุมและชั้นสอบสวนเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้จำเลยที่ 1 ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 กระทงละหนึ่งในสาม คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด 2 ปี 27 เดือน จำคุกจำเลยที่ 2 และที่ 3 มีกำหนดคนละ 3 เดือน และปรับคนละ 5,000 บาท ไม่ปรากฏว่าจำเลยที่ 2 และที่ 3 เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน เพื่อให้โอกาสจำเลยที่ 2 และที่ 3 กลับตนเป็นพลเมืองดี โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 2 ปี ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 56 หากจำเลยที่ 2 และที่ 3 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29, 30 ข้อหาอื่นนอกจากนี้ให้ยก ริบของกลาง ยกเว้นธนบัตรที่ใช้ล่อซื้อและรถจักรยานยนต์ให้คืนแก่เจ้าของ
จำเลยที่ 1 อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์สำหรับความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนตามพระราชบัญญัติยาเสพติให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15, 66 คืนโทรศัพท์เคลื่อนที่ของกลางแก่เจ้าของ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ข้อเท็จจริงเบื้องต้นรับฟังได้ว่า ในวันเวลาและสถานที่เกิดเหตุตามฟ้อง เจ้าพนักงานตำรวจจับกุมจำเลยทั้งสามกับนายบัณฑิตและยึดเมทแอมเฟตามีน 4 เม็ด พร้อมกับทรัพย์อื่น ๆ เป็นของกลาง ตามบัญชีของกลางคดีอาญา นักวิทยาศาสตร์ประจำงานพิสูจน์หลักฐาน วิทยาการเขต 34 ตรวจพิสูจน์เมทแอมเฟตามีนของกลางแล้วพบว่าเป็นยาเสพติดให้โทษชนิดเมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์ซึ่งเป็นเกลือของเมทแอมเฟตามีนและเป็นอนุพันธ์ของแอมเฟตามีน น้ำหนัก 0.37 กรัม สำหรับความผิดฐานร่วมกันเสพเมทแอมเฟตามีนโดยไม่ได้รับอนุญาต ฐานทำและมีวัตถุระเบิดไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต คู่ความมิได้ฎีกา จึงยุติไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 6 คงมีปัญหาต้องวินิจฉัยตามฎีกาของโจทก์ว่า จำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนโดยไม่ได้รับอนุญาตตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นหรือไม่ เห็นว่า พยานหลักฐานของโจทก์ที่นำสืบมามีน้ำหนักมั่นคงรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำความผิดฐานมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาตและจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่ศาลอุทธรณ์ภาค 6 พิพากษามานั้น ไม่ต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา ฎีกาของโจทก์ฟังขึ้น
อนึ่ง สำหรับความผิดฐานทำวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและฐานมีวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ตามพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ.2490 มาตรา 38 ซึ่งมีบทลงโทษตามมาตรา 74 นั้น วัตถุระเบิดที่จำเลยที่ 1 ทำและมีไว้ในครอบครองเป็นวัตถุระเบิดลูกเดียวกันและกระทำคราวเดียวกัน จึงเป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีโทษเท่ากัน ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 มิใช่เป็นความผิดหลายกรรมต่างกันดังที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษา ปัญหาดังกล่าวเป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย แม้จำเลยที่ 1 ไม่ได้ฎีกา ศาลฎีกาก็มีอำนาจยกขึ้นวินิจฉัยและแก้ไขให้ถูกต้องได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 215 และมาตรา 225
พิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 มาตรา 15 วรรคหนึ่ง, 66 วรรคหนึ่ง การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 4 ปี ส่วนความผิดฐานทำวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับใบอนุญาตและฐานมีวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับใบอนุญาต การกระทำของจำเลยที่ 1 เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีโทษเท่ากัน ให้ลงโทษฐานทำวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับใบอนุญาต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 1 ปี ลดโทษให้กระทงละหนึ่งในสาม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนโดยไม่ได้รับอนุญาต จำคุก 2 ปี 8 เดือน ฐานทำวัตถุระเบิดโดยไม่ได้รับใบอนุญาต จำคุก 8 เดือน เมื่อรวมกับโทษจำคุกในความผิดฐานเสพเมทแอมเฟตามีนโดยไม่ได้รับอนุญาต 3 เดือน ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นแล้วเป็นจำคุก 2 ปี 19 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น

Share