คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1317/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยถูกสามีบังคับให้ไปเป็นหญิงโสเภณี จำเลยไม่ยอม สามีก็เตะและเอามือค้ำคอจำเลยไว้ จนผู้อื่นต้องมาห้ามจำเลยเข้าห้องร้องไห้และพูดโต้เถียงกับสามีซึ่งนั่งอยู่หน้าห้อง แล้วจำเลยเอามีดมาฟันสามีจนถึงแก่ความตายนั้น ถือว่าจำเลยได้กระทำไปโดยบันดาลโทสะเพราะถูกสามีข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม และจำเลยตกอยู่ในภาวะอันสุดแสนที่จะทนทานได้

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า จำเลยใช้มีดโต้ยาวประมาณศอกเศษฟันนายก้อน ใจแปงตาย ขอให้ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ริบของกลาง
จำเลยให้การว่าได้กระทำไปเป็นการป้องกันตัว ครั้นสอบพยานโจทก์ได้ ๓ ปาก จำเลยถอนคำให้การเดิม และให้การใหม่ขอรับสารภาพตามฟ้อง
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามโจทก์ฟ้อง ให้จำคุก ๑๕ ปี รับสารภาพลดกึ่งหนึ่ง คงจำคุก ๗ ปี ๖ เดือน มีดของกลางริบ
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์วินิจฉัยว่าจำเลยกระทำไปโดยบันดาลโทสะ พิพากษาแก้ว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๗๒ ให้จำคุก ๒ ปี ลดหนึ่งในสามตามมาตรา ๗๘ เหลือ ๑ ปี ๔ เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยมีความโกรธแค้นมาก ที่ถูกผู้ตาย (สามี) บังคับให้ไปเป็นหญิงโสเภณี เมื่อจำเลยไม่ยอม ผู้ตายก็เตะและเอามือค้ำคอจำเลยไว้ จนนายเลิศได้มาห้าม ผู้ตายจึงปล่อยมือที่ค้ำคอจำเลย จำเลยก็เข้าไปในห้องร้องไห้และยังพูดโต้เถียงกับผู้ตาย ซึ่งนั่งอยู่ที่ระเบียง (หน้าห้อง) ฟังได้ว่าจำเลยกับผู้ตายโต้เถียงกันยังไม่ขาดตอน แล้วจำเลยเอามีดมาฟันผู้ตายถึงแก่ความตายเนื่องจากจำเลยถูกผู้ตายข่มเหงอย่างร้ายแรงด้วยเหตุอันไม่เป็นธรรม จำเลยตกอยู่ในภาวะอันสุดแสนที่จะทนทานได้ จำเลยจึงได้กระทำไปโดยบันดาลโทสะ
พิพากษายืน

Share