แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 20 วัน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษกักขัง 20 วัน แทนโทษจำคุก เป็นการแก้ไขเล็กน้อยต้องห้ามฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218 จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษเป็นฎีกาดุลพินิจในการวางโทษจำเลยขอศาลอุทธรณ์เป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง.
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43, 78, 157, 160
จำเลยให้การปฏิเสธ
ระหว่างสืบพยานโจทก์ ผู้เสียหายยื่นคำร้องขอเข้ามาเป็นโจทก์ร่วม ศาลชั้นอนุญาต
ศาลชั้นต้นพิจารณาแล้วพิพากษาว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522มาตรา 157 ลงโทษตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 บทหนักที่สุดให้จำคุก 4 เดือน และมีความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางลก พ.ศ.2522 มาตรา 160 จำคุก 20 วันรวมจำคุก 4 เดือน 20 วัน
จำเลยอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้เป็นว่า ให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะข้อหาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 300 และพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 มาตรา 157 เนื่องจากไม่ปรากฏว่าจำลยเคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ให้เปลี่ยนโทษจำคุกตามพระราชบัญญัติจราจรทางบกพ.ศ. 2522 ตามมาตรา 160 เป็นโทษกักขังแทน ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 23 นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์และจำเลยฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยไม่ได้ประมาทแล้ววินิจฉัยข้อกฎหมายว่าที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษในข้อหาความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 160 นั้น ศาลฎีกาเห็นว่ข้อหาความผิดดังกล่าวศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลย 20วัน ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ลงโทษกักขัง 20 วันแทนโทษจำคุกเท่านั้น ซึ่งเป็นการแก้ไขเล็กน้อย ต้องห้ามมิให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริงตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 218การที่จำเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษในข้อหาความผิดดังกล่าวนั้น เป็นฎีกาดุลพินิจในการวางโทษจำเลยของศาลอุทธรณ์ จึงเป็นฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง ศาลฎีกาไม่รับวินิจฉัย
พิพากษายืน.