แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา
ย่อสั้น
จำเลยที่ 2 วิวาทกับผู้ตาย แล้วกลับไปชวนจำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นน้องชายมาท้าทายให้ผู้ตายซึ่งอยู่บนชานเรือนลงไปต่อสู้กับจำเลยโดยจำเลยที่ 1 ถือมีดปลายแหลม จำเลยที่ 2 ถือไม้ครั้นผู้ตายนิ่งเฉยจำเลยที่ 2 ก็โดดขึ้นไปหาผู้ตาย ใช้ไม้ตีผู้ตาย 1 ที แต่ตีพลาดไม่ถูกผู้ตายแล้วโดดหนีไป จำเลยที่1 โดดขึ้นไปใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ที ถูกที่บริเวณลิ้นปี่ซึ่งเป็นส่วนสำคัญของร่างกายเป็นบาดแผลลึกถึง 12 เซนติเมตรแล้วโดดหนีตามจำเลยที่ 2 ไป ผู้ตายได้ถึงแก่ความตายหลังเกิดเหตุเล็กน้อยเช่นนี้แสดงว่าจำเลยที่ 1 แทงผู้ตายอย่างแรงโดยมีเจตนาฆ่า จำเลยทั้งสองย่อมมีความผิดฐานเป็นตัวการร่วมกันฆ่าผู้ตายโดยเจตนา
ย่อยาว
โจทก์ฟ้องว่า จำเลยทั้งสองร่วมกันฆ่าผู้ตายโดยเจตนา ขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83
จำเลยที่ 1 ให้การรับว่าได้ใช้มีดแทงผู้ตายจริง แต่กระทำไปโดยป้องกันตัวพอสมควรแก่เหตุ จำเลยที่ 2 ปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288, 83 ลงโทษจำคุกคนละ 16 ปี
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยที่ 1 มีความผิดตามฟ้อง ส่วนจำเลยที่ 2มิได้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ 1 พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่า จำเลยที่ 2 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 295, 80จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 6 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ 2 ตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ 1 ฎีกาขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ 2 มีปากเสียงกับผู้ตายเรื่องไก่ 1 ตัว แล้วกลับไปบ้านไปชวนจำเลยที่ 1 มาท้าผู้ตายวิวาท ครั้นผู้ตายไม่ยอมลงจากเรือน จำเลยที่ 2 ก็กระโดดขึ้นไปบนชานเรือนใช้ไม้เพลาเกวียนที่ถือติดมือมาตีผู้ตาย เมื่อตีไม่ถูกก็โดดเรือนหนี จำเลยที่ 1 ซึ่งเป็นน้องจำเลยที่ 2 กระโดดขึ้นไปใช้มีดแทงผู้ตาย 1 ที ถูกที่สำคัญคือที่หน้าท้องบริเวณลิ้นปี่เป็นแผลลึก 12 เซนติเมตร แล้วโดดหนีไปทางเดียวกับจำเลยที่ 2 จึงเห็นได้ว่าจำเลยที่ 1 แทงผู้ตายโดยแรง โดยมีเจตนาฆ่า ซึ่งผู้ตายก็ถึงแก่ความตายในเวลาต่อมาเพียงเล็กน้อย จำเลยที่ 1 จึงมีความผิดฐานฆ่าคนตายโดยเจตนา ส่วนจำเลยที่ 2 เป็นผู้ร่วมไปกับจำเลยที่ 1 โดยชักชวนจำเลยที่ 1 ไปท้าทายผู้ตาย และได้ลงมือทำร้ายผู้ตายด้วย แม้จำเลยที่ 2 จะทำร้ายผู้ตายไม่ได้โดยตีไม่ถูก แต่จำเลยที่ 1ก็ได้ทำให้ผู้ตายถึงตาย จำเลยที่ 2 ก็ต้องรับผลกรรมอันนี้เป็นของตนด้วยโดยมีความผิดฐานเป็นตัวการในกรณีนี้เช่นเดียวกับจำเลยที่ 1
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้บังคับคดีไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้นเว้นแต่โทษที่ศาลชั้นต้นลงแก่จำเลยที่ 1 มา 16 ปีนั้นจำเลยที่ 1 มอบตัวต่อเจ้าพนักงานและให้การเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาจึงลดโทษให้จำเลยที่ 1 เสีย 1 ใน 3 คงจำคุกจำเลยที่ 1 มีกำหนด10 ปี 8 เดือน