คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 131/2496

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เช็คที่มีผู้ปลอมลายมือชื่อผู้สั่งจ่าย แล้วเอาไปขึ้นเงินจากธนาคารไปนั้น เป็นกรณีตาม ป.ม.แพ่งฯมาตรา 1008 แม้
ธนาคารจะจ่ายเงินไปโดยมิได้ประมาทเลินเล่อ ธนาคารก็ยังต้องรับผิดชอบตามจำนวนเงินที่จ่ายให้ไปนั้น./

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยที่ รับราชการเป็นผู้จัดการองค์การรถไฟสายแม่กลอง สังกัดกรมรถไฟองค์การนี้ได้ฝากเงินไว้
กับจำเลยที่ ๆ ได้จ่ายสมุดเช็คให้ไว้สำหรับจ่ายเงินอยู่ในความดูแลรักษาและรับผิดชอบของจำเลยที่ ซึ่งเป็นผู้มีอำนาจ
สั่งจ่ายเงิน ต่อมาจำเลยที่ ได้รายงานต่อโจทก์ว่า เช็คถูกคนร้ายลอบฉีกเช็คเลขที่ ก. ๙๒๙๐๔๐ ทั้งต้นขั้วและปลายขั้ว
ฉะบับหนึ่ง ได้มีผู้ปลอมลายเซ็นของจำเลยที่ ๑ สั่งจ่ายเงินขององค์การรถไฟสายแม่กลองจำนวน ๗๐,๐๐๐ บาท ให้แก่
สหการก่อสร้างและมีผู้นำไปขึ้นเงินจากจำเลยที่ ๒ ๆ ได้จ่ายเงินให้ไปตามจำนวนเงินในเช็คนั้นไปแล้ว ทั้งนี้โดยจำเลย
ทั้งสองทำการประมาทเลินเล่อ ฯลฯ
จึงขอให้จำเลยทั้งสองใช้เงิน ๗๐,๐๐๐ บาท กับดอกเบี้ยให้โจทก์.
จำเลยปฏิเสธความรับผิด แก้ว่ามิได้ประมาทเลินเล่อ
ศาลแพ่งพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ ใช้เงิน ๗๐,๐๐๐ บาทกับดอกเบี้ยให้โจทก์ ส่วนจำเลยที่ ๒ ไม่ต้องรับผิด.
โจทก์และจำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้ธนาคารไทยพาณิชย์จำเลยที่ ๒ ใช้เงิน ๗๐,๐๐๐ บาท และดอกเบี้ย ฯลฯ ให้โจทก์ ยกฟ้อง
เฉพาะจำเลยที่ ๑
โจทก์และจำเลยที่ ๒ ฎีกา
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว เห็นว่าคดีเรื่องนี้เป็นเรื่องตั๋วเงินปลอมตรงกับบทบัญญัติในประมวลกฏหมายแพ่งและพาณิชย
มาตรา ๑๐๐๘ จึงเป็นเช๊คที่ใช้ไม่ได้ การที่จำเลยที่ ๒ ต่อสู้ว่าได้จ่ายเงินไปตามเช็ครายนี้โดยมิได้ประมาทเลินเล่อนั้น หาจำต้องวินิจฉัยไม่ จำเลยที่ ๒ ต้องรับผิด.
จึงพิพากษายืน.

Share