คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1308/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยที่ 1 ให้ปืนแก๊ปยาวยิงผู้เสียหาย 1 นัด กระสุนปืนถูกผู้เสียหายบาดเจ็บสาหัส และถูกผู้ตายซึ่งยืนอยู่ใกล้ผู้เสียหายถึงแก่ความตาย จำเลยที่ 1 ย่อมมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายและฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบด้วยมาตรา 60
จำเลยที่ 2 ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้เสียหายหรือผู้ตาย แต่ยืนอยู่กับจำเลยที่ 1 ขณะที่จำเลยที่ 1 ยิงผู้เสียหาย เมื่อยิงแล้วจำเลยที่ 2 วิ่งหนีไปกับจำเลยที่ 1 พยานหลักฐานเพียงเท่านี้ยังฟังลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานเป็นตัวการกระทำผิดร่วมกับจำเลยที่ 1 ไม่ได้

ย่อยาว

คดี ๒ สำนวนนี้ศาลรวมพิจารณาเข้าด้วยกัน สำนวนแรกโจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยทั้งสองฐานพยายามฆ่าผู้เสียหายและฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๖๐ ส่วนสำนวนที่ ๒ โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษนายภู ผกาศรี ฐานครอบครองอาวุธปืนโดยไม่รับอนุญาต
จำเลยทั้ง ๒ สำนวนให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองกระทำผิดตามฟ้อง พิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองฐานฆ่าผู้ตายโดยเจตนาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๖๐, ๘๓ อันเป็นบทหนักตามมาตรา ๙๐ ลงโทษจำคุกจำเลยคนละ ๑๘ ปี คำให้การชั้นสอบสวนของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาลดโทษให้คนละ ๑ ใน ๓ คงจำคุกคนละ ๑๒ ปี ของกลางริบ
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยที่ ๑ กระทำผิดจริงตามฟ้อง ส่วนจำเลยที่ ๒ นั้น พยานหลักฐานโจทก์ยังไม่มั่นคงพอฟังได้ว่าร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ ๑ พิพากษาแก้ให้ยกฟ้องโจทก์เฉพาะนายกันยาจำเลยที่ ๒ นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยที่ ๒ ตามฟ้อง จำเลยที่ ๑ ฎีกาขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ ๑ ใช้ปืนแก๊ปยาวยิงผู้เสียหายเพราะมีสาเหตุโกรธเคืองกัน กระสุนปืนถูกผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัสและพลาดไปถูกผู้ตายซึ่งยืนอยู่กับผู้เสียหายถึงแก่ความตาย จำเลยที่ ๑ จึงมีความผิดตามที่ศาลล่างทั้งสองวินิจฉัย
สำหรับจำเลวที่ ๒ นั้น ศาลฎีกาเห็นว่า จำเลยที่ ๒ ไม่มีสาเหตุโกรธเคืองกับผู้เสียหาย เพียงแต่จำเลยที่ ๒ ยืนอยู่กับจำเลยที่ ๑ ขณะจำเลยที่ ๑ ยิงผู้เสียหาย แล้ววิ่งหนีไปด้วยกัน อีกทั้งไม่ปรากฏว่าก่อนยิงจำเลยที่ ๑ ได้ชักชวนจำเลยที่ ๒ แต่อย่างใด หลักฐานเพียงเท่านี้ไม่พอฟังได้แน่ชัดว่าจำเลยที่ ๒ ได้ร่วมกระทำผิดกับจำเลยที่ ๑ พิพากษายืน

Share