คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1306/2513

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยเมาสุรา ถือมีดดายหญ้ามาท้าทายจะทำร้ายผู้เสียหายซึ่งยืนอยู่ห่าง 1 วา คนละฟากรั้วสวน ต่อมา ย. ถือปืนสั้นมายืนอยู่ข้างจำเลย และบอกให้ผู้เสียหายกลับไปนอน พอผู้เสียหายหันตัวจะกลับบ้าน จำเลยพูดว่ายิงมันเลย แล้ว ย. ก็ใช้ปืนยิงผู้เสียหาย 4 นัด ผู้เสียหายถูกกระสุนปืนล้มลง แล้วจำเลยยังพูดต่อไปอีกว่า ตายแล้วยัง มาสู้กันอีก พฤติการณ์ของจำเลยเช่นนี้ถือได้ว่า จำเลยได้ร่วมในการยิงผู้เสียหายกับ ย. ด้วย

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องว่า จำเลยกับพวกที่หลบหนีอีก ๑ คน ได้ร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายโดยเจตนาฆ่าให้ตาย กระสุนถูกผู้เสียหายหลายแห่งได้รับอันตรายสาหัส จำเลยกับพวกได้กระทำผิดไปตลอดแล้ว แต่หากด้วยกระสุนปืนไม่ถูกที่สำคัญ ผู้เสียหายจึงไม่ถึงแก่ความตายสมเจตนาของจำเลยกับพวก ขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘, ๘๐, ๘๓
จำเลยให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นเห็นว่า พยานโจทก์ไม่พอฟังว่าจำเลยได้ร่วมกระทำผิดกับผู้ที่ยิงผู้เสียหาย พิพากษายกฟ้อง
ศาลอุทธรณ์เห็นว่า จำเลยเป็นผู้สนับสนุนการกระทำฐานพยายามฆ่าคน พิพากษากลับคำพิพากษาศาลชั้นต้นเป็นว่า จำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๘๐, ๘๖ ให้จำคุกจำเลย ๖ ปี ๘ เดือน
โจทก์ฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามฟ้อง
จำเลยฎีกาขอให้ยกฟ้อง
ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยเมาสุราถือมีดดายหญ้ามายืนท้าทายจะทำร้ายผู้เสียหาย ซึ่งอยู่คนละฟากรั้วสวนห่างกัน ๑ วา ต่อมานายอยู่วิ่งมาจากบ้านจำเลย มายืนอยู่ข้างจำเลย และพูดกับผู้เสียหายว่า ผู้เสียหายจำเสียงนายอยู่ได้หรือไม่ ถ้าจำได้ก็ให้กลับไปนอน ผู้เสียหายฉายไฟดูเห็นนายอยู่ถือปืนนั้นยืนอยู่ห่าง ๑ วา จึงดับไฟฉายจะกลับบ้าน พอหันตัว จำเลยพูดว่า ยิงมันเลย แล้วมีเสียงปืนดัง ๔ นัดติด ๆ กัน จากทางที่นายอยู่ยืน แล้วนายอยู่วิ่งหนีไป ผู้เสียหายถูกกระสุนปืนได้รับบาดแผลหลายแห่ง ศาลฎีกาเห็นว่า ปืนดังขึ้นหลังจากที่ผู้เสียหายดับไฟฉายที่ฉายดูนายอยู่ ตรงนั้นนอกจากนายอยู่กับจำเลยแล้ว ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดอีก จำเลยมีแต่มีดไม่มีปืน จึงฟังได้ว่านายอยู่เป็นผู้ยิงผู้เสียหาย ปัญหาที่ว่า การที่จำเลยพูดว่ายิงมันเลย แล้วนายอยู่ก็ยิงผู้เสียหาย ดังนี้ จะถือได้หรือไม่ว่า จำเลยได้ร่วมในการยิงผู้เสียหายกับนายอยู่ด้วย ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ในตอน ๑๘.๐๐ นาฬิกา ก่อนเกิดเหตุ จำเลยกับนายอยู่ได้ร่วมวงดื่มสุรากันที่บ้านนายสุข และจำเลยกับนายอยู่ยังได้มาดื่มสุรากันต่อที่บ้านจำเลยอีก ต่อมาจำเลยถือมีดไปร้องท้าทายจะทำร้ายผู้เสียหายที่ข้างรั้ว เห็นได้ว่าจำเลยมีเจตนาจะทำร้ายผู้เสียหายอยู่แล้ว นายอยู่กับพวกของจำเลยถือปืนวิ่งตามไปยืนอยู่กับจำเลย จำเลยร้องบอกให้ยิง แสดงอยู่ในตัวว่า จะร่วมกันทำร้ายผู้เสียหายมาก่อน และจำเลยทราบดีว่านายอยู่มีปืนด้วย จึงร้องขึ้นดังนั้น เมื่อนายอยู่ยิงผู้เสียหายแล้ว จำเลยยังพูดต่อไปว่าตายแล้วยัง มาสู้กันอีก เป็นการสำทับให้เห็นเจตนาของจำเลยดังกล่าวข้างต้น จึงถือได้ว่าจำเลยได้ร่วมในการยิงผู้เสียหายกับนายอยู่ด้วย
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เป็นว่า จำเลยผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๘๘ ประกอบด้วยมาตรา ๘๐, ๘๓ ให้จำคุกจำเลยมีกำหนด ๑๐ ปี

Share