คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1304/2514

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

หนี้อันเกิดแต่มูลละเมิดนั้น ลูกหนี้ได้ชื่อว่าผิดนัดมาแต่เวลาที่ทำละเมิดเป็นต้นไป ฉะนั้น ค่าเสียหายคำนวณเป็นเงินก้อนจากวันละเมิดจนถึงวันฟ้อง จึงต้องคิดดอกเบี้ยระหว่างผิดนัดให้ตั้งแต่วันละเมิดแต่ถ้าคำขอท้ายฟ้องโจทก์ระบุมาไม่ชัดแจ้งว่า ให้จำเลยชำระตั้งแต่วันใดศาลอาจให้ดอกเบี้ยนับแต่วันฟ้องก็ได้
ส่วนค่าเสียหายที่โจทก์ขอให้ชำระเป็นรายเดือนนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะหยุดทำละเมิดนั้น หลักการคิดดอกเบี้ยไม่เหมือนกับการคำนวณค่าเสียหายเป็นเงินก้อนเดียวดังกรณีข้างต้น ในกรณีเช่นนี้ถ้าจำเลยผิดนัด ไม่ชำระในเดือนใด ก็ให้คิดดอกเบี้ยแต่เดือนที่ผิดนัดนั้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ

ย่อยาว

คดีนี้ โจทก์ฟ้องขอให้ศาลพิพากษาขับไล่จำเลยและบริวารออกจากอาคารเลขที่ ๓๕๖/๓๙ ตำบลบางยี่เรือ อำเภอธนบุรี จังหวัดธนบุรี และออกจากที่ดินโฉนดที่ ๔๗๒๐ ตำบลนางไส้ไก่เหนือ อำเภอบางลำภูล่าง จังหวัดธนบุรี ให้ร่วมกันใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ จำนวน ๑๑,๙๐๐ บาทและเดือนละ ๑,๐๐๐ บาทนับแต่วันฟ้องจนกว่าจะหยุดละเมิด กับให้ใช้ดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปี ในเงินค่าเสียหายดังกล่าวด้วย
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้จำเลยที่ ๑ และ ๓ ออกจากอาคารและที่ดินพิพาท ให้จำเลยที่ ๑ ใช้ค่าเสียหายเดือนละ ๖๕๐ บาทนับแต่เดือนกรกฎาคม ๒๕๐๗ จนถึงวันฟ้องและร่วมกับจำเลยที่ ๓ ใช้ค่าเสียหายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ๒๕๐๘ จนถึงวันฟ้องและต่อจากวันฟ้องจนกว่าจะชำระเสร็จกับให้ใช้ดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปี ในเงินค่าเสียหายดังกล่าวด้วย
จำเลยที่ ๑ อุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิพากษาแก้ให้จำเลยที่ ๑ ใช้ค่าเสียหายตั้งแต่เดือนกรกฎาคม ๒๕๐๘ นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลชั้นต้น
จำเลยที่ ๑ ฎีกา
ศาลฎีกาฟังว่า จำเลยที่ ๑ และที่ ๓ เข้าอยู่ในตึกพิพาทโดยละเมิดและเห็นพ้องกับศาลล่างทั้งสองที่กำหนดค่าเสียหายให้เดือนละ ๖๕๐ บาท ส่วนที่จำเลยฎีกาว่า ไม่ต้องเสียดอกเบี้ยในจำนวนเงินค่าเสียหายอีกเพราะจำนวนค่าเสียหายเท่าใดยังไม่แน่นอน และเท่ากับเป็นการเรียกค่าเสียหายซ้อนนั้น ศาลฎีกาเห็นว่า หนี้รายนี้เป็นหนี้อันเกิดแต่มูลละเมิดต้องถือว่าจำเลยผิดนัดมาแต่วันละเมิดต้องคิดดอกเบี้ยในระหว่างผิดนัดร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา ๒๐๖ และ ๒๒๔ แต่คดีนี้โจทก์ฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายก่อนฟ้องรวมกันเป็นเงินก้อนและมิได้ระบุมาให้ชัดเจนในคำขอท้ายฟ้องว่า ให้จำเลยเสียดอกเบี้ยตั้งแต่วันใด ศาลฎีกาจึงเห็นควรให้ดอกเบี้ยในจำนวนเงินค่าเสียหายก่อนฟ้องนับแต่วันฟ้องเป็นต้นไป ส่วนค่าเสียหายภายหลังฟ้องเป็นรายเดือนนั้น จำเลยผิดนัดไม่ชำระในเดือนใด ก็ให้คิดดอกเบี้ยแต่เดือนนั้น
พิพากษาแก้คำพิพากษาศาลอุทธรณ์เฉพาะข้อที่ให้คิดดอกเบี้ยเป็นว่าในจำนวนเงินค่าเสียหายก่อนฟ้องโดยคิดอัตราค่าเสียหายเดือนละ ๖๕๐ บาท นับแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๐๘ จนถึงวันฟ้องให้โจทก์นั้นให้คิดดอกเบี้ยร้อยละ ๗ ครึ่งต่อปี นับแต่วันฟ้องเป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเงินเสร็จ ส่วนค่าเสียหายเดือนละ ๖๕๐ บาท นับแต่วันฟ้องจนกว่าจำเลยจะออกไปจากตึกและที่ดินพิพาทนั้น ถ้าจำเลยผิดนัดก็ให้คิดดอกเบี้ยร้อยละเจ็ดครึ่งต่อปีไปทุกเดือนที่ผิดนัด จนกว่าจะชำระเงินเสร็จนอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์

Share