คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1303/2518

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

ผู้เยาว์ซึ่งเกิดจากบิดาและมารดาที่ไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน ย่อมเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของมารดา และมารดามีอำนาจฟ้องแทนผู้เยาว์ได้
การนำสืบว่าผู้มีชื่อในโฉนดไม่ใช่เจ้าของที่ดิน แต่ลงชื่อในโฉนดแทนผู้อื่นนั้น หาใช่เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงเอกสารไม่ จึงไม่ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์เป็นบุตรนายทรวง เกิดจากนางสายหยุดนายทรวงซื้อที่ดินมีโฉนดพร้อมสิ่งปลูกสร้างโดยเจตนาซื้อให้โจทก์แต่นายทรวงเป็นคนต่างด้าวและโจทก์ก็เป็นผู้เยาว์ จึงตกลงกับจำเลยให้จำเลยลงชื่อเป็นผู้ซื้อที่ดินแทนไปพลางก่อนแล้วให้โอนยกให้โจทก์ในภายหลัง หลังจากนั้นนายทรวงก็ถึงแก่กรรม นางสายหยุดมารดาโจทก์ทวงถามให้จำเลยโอนที่ดินให้โจทก์ตามข้อตกลง จำเลยกลับฟ้องขับไล่อ้างว่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นของจำเลย ขอให้ศาลพิพากษาว่ากรรมสิทธิ์ในที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นของโจทก์

จำเลยขาดนัดยื่นคำให้การ

ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า ที่ดินพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างเป็นของโจทก์ ให้จำเลยไปจดทะเบียนโอนให้โจทก์ หากไม่จัดการโอนให้ถือเอาคำพิพากษาแทนการแสดงเจตนาของจำเลย

จำเลยอุทธรณ์

ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน

จำเลยฎีกา

ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ที่จำเลยฎีกาว่านายทรวงกับนางสายหยุดไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน โจทก์จึงไม่ใช่บุตรชอบด้วยกฎหมายของนายทรวง นางสายหยุดจึงไม่มีอำนาจฟ้องแทนเด็กชายยกซิมโจทก์นั้นเห็นว่าโจทก์จะเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของนายทรวงหรือไม่ หาใช่เป็นสิ่งสำคัญไม่ เพราะโจทก์ย่อมเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของนางสายหยุด นางสายหยุดจึงมีอำนาจฟ้องแทนเด็กชายซิมบุตรผู้เยาว์ได้

ที่จำเลยฎีกาว่า โจทก์นำสืบว่าจำเลยลงชื่อในโฉนดที่ดินแทนเด็กชายยกซิมโจทก์เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงเอกสาร ต้องห้ามตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 94 นั้น เห็นว่า การนำสืบของโจทก์ดังกล่าวหาใช่เป็นการสืบเปลี่ยนแปลงเอกสาร จึงไม่เป็นการต้องห้ามตามบทกฎหมายที่จำเลยอ้าง

ส่วนที่จำเลยฎีกาว่า จำเลยซื้อที่ดินและบ้านพิพาทเป็นของจำเลยไม่ใช่แทนโจทก์นั้น ศาลฎีกาฟังข้อเท็จจริงว่า จำเลยไม่ได้ลงชื่อในโฉนดที่ดินพิพาทแทนเด็กชายยกซิมโจทก์ ที่ดินและบ้านพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลย

พิพากษากลับ ให้ยกฟ้องโจทก์

Share