คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1301/2508

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

เจ้าของกรรมสิทธิ์รวมฟ้องขอแบ่งที่ดินและสิ่งปลูกสร้างจากเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมผู้อื่นตามส่วนของตน เมื่อปรากฏว่า เจ้าของกรรมสิทธิ์รวมผู้หนึ่งได้ปลูกโรงเรียนไว้บนที่ดินนั้น ศาลย่อมพิพากษาให้แบ่งที่ดินและสิ่งปลูกสร้างตามส่วนโดยให้เจ้าของกรรมสิทธิ์รวมผู้ปลูกโรงเรียนได้รับแบ่งที่ดินตอนที่ปลูกโรงเรียนได้ หากไม่ตกลงจึงให้ขายโดยประมูลราคาระหว่างเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมด้วยกัน หรือขายทอดตลาด
โจทก์และจำเลยซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์รวมได้รับส่วนแบ่งไม่เท่ากัน และเป็นเรื่องขอแบ่งกรรมสิทธิ์รวม ค่าฤชาธรรมเนียมจึงควรให้เป็นพับ

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องว่า โจทก์และจำเลยทั้งสามเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ร่วมกันในที่ดินโฉนดที่ ๓๘๓๖ และ ๓๘๓๗ พร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้าง โดยโจทก์มีส่วนเป็นเจ้าของ ๓ ใน ๗ ส่วน จำเลยที่ ๑ มี ๒ ใน ๗ ส่วน จำเลยที่ ๒ และที่ ๓ มีคนละ ๑ ใน ๗ ส่วน ต่อมาที่ดินทั้งสองแปลงนี้ถูกเวนคืนบางส่วน ซึ่งเจ้าของที่ดินมีสิทธิได้รับเงินค่าชดใช้ทำขวัญจากทางการ แต่ยังไม่ได้รับโจทก์ขอแบ่งที่ดิน จำเลยไม่ตกลง จึงขอให้แบ่งที่ดินทั้ง ๒ แปลงพร้อมทั้งสิ่งปลูกสร้างตามส่วน โดยวิธีประมูลราคาหรือขายทอดตลาด และให้ผู้ประมูลได้หรือผู้รับซื้อจากการขายทอดตลาดมีสิทธิได้รับเงินชดใช้ทำขวัญจากทางการ
จำเลยที่ ๑ และ ๓ ให้การว่าพร้อมจะแบ่งที่ดินให้โจทก์ แต่ไม่ต้องการให้แบ่งโดยวิธีประมูลหรือขายทอดตลาด เพราะที่ดินอันเป็นส่วนของจำเลยที่ ๓ ได้ปลูกสร้างโรงเรียนดำเนินการอยู่ในขณะนี้
จำเลยที่ ๒ ให้การว่า ที่ดินส่วนของจำเลยที่ ๒ คือที่ดินส่วนหนึ่งของโฉนดที่ ๓๘๓๗ ซึ่งจำเลยครอบครองอยู่แล้ว ยังไม่มีเหตุที่โจทก์จะขอแบ่ง
ศาลชั้นต้นพิพากษาให้แบ่งที่ดินพิพาททั้งสองแปลงพร้อมด้วยสิ่งปลูกสร้างออกเป็น ๗ ส่วน ให้โจทก์ได้ ๓ ส่วน จำเลยที่ ๑ ได้ ๒ ส่วน จำเลยที่ ๒ และ ๓ ได้คนละ ๑ ส่วน ถ้าแบ่งไม่ได้ให้ประมูลระหว่างโจทก์จำเลย หรือขายทอดตลาดโดยให้ผู้ประมูลได้หรือผู้รับซื้อจากการขายทอดตลาดเป็นผู้มีสิทธิได้รับเงินชดเชยค่าทำขวัญในการเวนคืนจากทางการแล้วแบ่งเงินกันตามส่วน ค่าฤชาธรรมเนียมให้โจทก์และจำเลยออกคนละ ๑ ส่วน
จำเลยที่ ๑ ที่ ๓ อุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์พิพากษายืน
จำเลยที่ ๑ และ ๓ ฎีกา
ศาลฎีกาพิพากษาว่าข้อเท็จจริงรับกันว่าโรงเรียนที่ปลูกอยู่บนที่ดินพิพาทเป็นกรรมสิทธิ์ของจำเลยที่ ๓ ฉะนั้น ในการแบ่งที่ดินพิพาท จำเลยที่ ๓ ควรได้รับแบ่งที่ดินที่ปลูกโรงเรียนอยู่ ถ้าจะต้องประมูลหรือขายทอดตลาดก็ไม่รวมถึงโรงเรียนของจำเลยที่ ๓ ด้วย สำหรับเงินค่าชดเชยทำขวัญที่จะได้จากรัฐบาลเป็นเงินของโจทก์และจำเลยจะได้รับตามส่วนของตนที่มีอยู่ ไม่เกี่ยวกับที่ดิน จะนำไปประมูลหรือขายทอดตลาดรวมกับที่ดินไม่ชอบ ส่วนค่าฤชาธรรมเนียมปรากฏว่าโจทก์และจำเลยได้รับส่วนแบ่งไม่เท่ากัน และเป็นเรื่องขอแบ่งกรรมสิทธิ์รวม สมควรให้เป็นพับไป จึงพิพากษาแก้ว่า ส่วนของจำเลยที่ ๓ ให้ได้รับแบ่งที่ดินตอนที่จำเลยที่ ๓ ปลูกโรงเรียนอยู่ ถ้าแบ่งให้แก่จำเลยที่ ๓ ดังกล่าวไม่ได้ ให้ขายโดยประมูลระหว่างโจทก์และจำเลยทั้งสามหรือขายทอดตลาด เว้นแต่โรงเรียนของจำเลยที่ ๓ และเงินชดเชยทำขวัญจากรัฐบาลไม่ต้องนำไปประมูลหรือขายทอดตลาดด้วย ค่าฤชาธรรมเนียมให้เป็นพับ

Share