คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 13008/2555

แหล่งที่มา : กองผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา

ย่อสั้น

จำเลยทั้งสองร่วมกันนำใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไปลงรายการในรายงานภาษีซื้อแต่ละคราวในเดือนเดียวกัน แล้วนำไปใช้ในการเครดิตภาษีก็โดยมีเจตนาและจุดประสงค์อย่างเดียวกันคือเพื่อจะหลีกเลี่ยงการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับเดือนภาษีนั้น ๆ จึงถือว่าการกระทำตามฟ้องในแต่ละเดือนภาษีเป็นการกระทำกรรมเดียวกันอันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบทตาม ป.อ. มาตรา 90 เมื่อจำเลยทั้งสองกระทำการในลักษณะดังกล่าวรวม 7 เดือนภาษี จึงต้องลงโทษจำเลยทั้งสองเพียง 7 กรรม ตาม ป.อ. มาตรา 91

ย่อยาว

โจทก์ฟ้องขอให้ลงโทษจำเลยตามประมวลรัษฎากร มาตรา 77/1, 82/3, 87, 90/4 (4) (7), 90/5 ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 33, 83, 91 ริบใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
จำเลยทั้งสองให้การปฏิเสธ
ศาลชั้นต้นพิพากษาว่า จำเลยทั้งสองมีความผิดตามประมวลรัษฎากร มาตรา 90/4 (4) (7) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83 การกระทำของจำเลยทั้งสองเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้เรียงกระทงลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานร่วมกันลงรายการเป็นเท็จในรายงานภาษีซื้อ ปรับจำเลยที่ 1 กระทงละ 2,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 กระทงละ 3 เดือน รวม 16 กระทง และฐานร่วมกันนำใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไปใช้ในการเครดิตภาษี ปรับจำเลยที่ 1 กระทงละ 2,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 กระทงละ 3 เดือน รวม 7 กระทง รวมทุกกระทง ปรับจำเลยที่ 1 เป็นเงิน 46,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 มีกำหนด 69 เดือน หากจำเลยที่ 1 ไม่ชำระค่าปรับให้จัดการตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 29 ริบใบกำกับภาษีของกลาง
จำเลยทั้งสองอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์ภาค 2 พิพากษายืน
จำเลยทั้งสองฎีกา โดยผู้พิพากษาซึ่งพิจารณาและลงชื่อในคำพิพากษาศาลชั้นต้นอนุญาตให้ฎีกาในปัญหาข้อเท็จจริง
ศาลฎีกาวินิจฉัยว่า ได้ความตามคำฟ้องและทางนำสืบของโจทก์และจำเลยทั้งสองว่า หลังจากจำเลยทั้งสองร่วมกันนำใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไปลงรายการในรายงานภาษีซื้ออันเป็นความเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงและพยายามหลีกเลี่ยงการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มตามคำฟ้องข้อ 2.1 ถึง 2.16 แล้ว จำเลยทั้งสองได้ร่วมกันนำใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายดังกล่าวไปใช้ในการเครดิตภาษี โดยนำมูลค่าสินค้าและภาษีมูลค่าเพิ่มตามใบกำกับภาษีดังกล่าวไปใช้คำนวณเป็นภาษีซื้อส่วนหนึ่ง สำหรับการยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่มประจำเดือนภาษีกุมภาพันธ์ 2539 เดือนภาษีกรกฎาคม 2539 เดือนภาษีกุมภาพันธ์ 2540 เดือนภาษีพฤษภาคม 2540 เดือนภาษีมิถุนายน 2540 เดือนภาษีกรกฎาคม 2540 และเดือนภาษีสิงหาคม 2540 ตามคำฟ้องข้อ 2.17 ถึง 2.23 ตามลำดับ ดังนี้ ย่อมเห็นได้ว่า การที่จำเลยทั้งสองร่วมกันนำใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไปลงรายการในรายงานภาษีซื้อแต่ละคราวในเดือนเดียวกัน แล้วนำไปใช้ในการเครดิตภาษีก็โดยมีเจตนาและจุดประสงค์อย่างเดียวกันคือเพื่อจะหลีกเลี่ยงการเสียภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับเดือนภาษี นั้น ๆ จึงถือว่าการกระทำตามฟ้องในแต่ละเดือนภาษีเป็นการกระทำกรรมเดียวกันอันเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 เมื่อจำเลยทั้งสองกระทำการในลักษณะดังกล่าวรวม 7 เดือนภาษี จึงต้องลงโทษจำเลยทั้งสองเพียง 7 กรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษาลงโทษจำเลยทั้งสองฐานร่วมกันลงรายการเป็นเท็จในรายงานภาษีซื้อ รวม 16 กระทง และฐานร่วมกันนำใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไปใช้ในการเครดิตภาษี รวม 7 กระทง รวมเป็น 23 กระทง นั้น ไม่ถูกต้อง ปัญหานี้เป็นข้อกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อยแม้ไม่มีคู่ความฝ่ายใดฎีกา ศาลฎีกาก็ยกขึ้นวินิจฉัยเองได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 195 วรรคสอง ประกอบมาตรา 225
พิพากษาแก้เป็นว่า ความผิดฐานร่วมกันลงรายการเป็นเท็จในรายงานภาษีซื้อและฐานร่วมกันนำใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไปใช้ในการเครดิตภาษี เป็นการกระทำกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายหลายบท แต่ละบทมีโทษเท่ากัน ลงโทษฐานร่วมกันนำใบกำกับภาษีที่ออกโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายไปใช้ในการเครดิตภาษี ตามประมวลรัษฎากร มาตรา 90/4 (7) ปรับจำเลยที่ 1 กระทงละ 2,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 กระทงละ 3 เดือน รวม 7 กระทง เป็นปรับจำเลยที่ 1 รวม 14,000 บาท จำคุกจำเลยที่ 2 รวม 21 เดือน นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 2

Share